รฟท.แจง สผ.เรียกเอกสารสิ่งแวดล้อมเพิ่มไม่ทำรถไฟไทย-จีนล้ม

กรุงเทพฯ  5 ต.ค. – รฟท.ชี้แจงกรณี สผ.เรียกเอกสารเพิ่มการจัดทำผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ยอมรับอาจล่าช้าบ้าง แต่ไม่เกิน 1 เดือน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีกระแสข่าวระบุว่าโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย—จีน มีปัญหาสะดุด เนื่องจากการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยสำนักงานสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ยังไม่อนุมัติผลการศึกษาผลกระทบ อาจทำให้โครงการเกิดความช้า นั้น

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม รักษาการผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ระบุว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ประเด็นว่าโครงการรถไฟไทย-จีนไม่ผ่าน EIA แต่ สผ.มีการเรียกเอกสารเพิ่มจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งเป็นผู้จัดทำรายงาน โดยการเรียกเอกสารเพิ่มนั้น ถือเป็นเรื่องปกติเกิดขึ้นได้กับทุกโครงการ 


อย่างไรก็ตาม การขอเอกสารเพิ่มดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบกับตารางเวลาก่อสร้างโครงการรถไฟไทย-จีนบ้างเล็กน้อยประมาณไม่เกิน 1 เดือน โดยเฉพาะการก่อสร้างช่วง 3.5 กิโลเมตร สถานีปางอโศก-สถานีกลางดง ซึ่งช่วงดังกล่าวก็เป็นช่วงที่เป็นสัญลักษณ์เริ่มต้นโครงการเท่านั้น  แต่จะไม่ส่งผลต่อภาพรวมตารางเวลาหลักการก่อสร้างโครงการเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-นครราชสีมาทั้งเส้นทาง ส่วนประเด็นรายละเอียดว่า สผ.ขอเอกสารเรื่องใดบ้างนั้น  ต้องรอ สนข.เป็นผู้ชี้แจงอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการศึกษาผลกระทบ EIA ที่ สผ.ขอเรียกเอกสารเพิ่มมีประเด็นเนื่องจากเส้นทางการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงแรกกรุงเทพฯ-นครราชสีมาในแนวเส้นทางมีการผ่านพื้นที่สัมปทานเหมืองปูนของผู้ประกอบการรวม 3 ราย ซึ่ง สผ.ต้องการให้ประสานงานให้เจ้าของสัมปทานทั้ง 3 ราย เซ็นรับทราบการก่อสร้างแนวเส้นทางด้วย  ซึ่ง สนข.กำลังเร่งดำเนินการขั้นตอนดังกล่าวให้เสร็จ โดยเชื่อว่าหากไม่มีสิ่งใดติดขัดก็จะสามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นเดือนตุลาคมนี้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย