วงโยธวาทิต รร.วังไกลกังวล บรรเลงเพลงถวาย “พ่อ” แห่งแผ่นดิน

ภูมิภาค 4 ต.ค.- พสกนิกรทั่วไทยพร้อมใจทำกิจกรรมถวายอาลัย วงโยธวาทิตโรงเรียนวังไกลกังวลบรรเลงเพลงของ “พ่อ” ชาวนครศรีฯ ร่วมใจวาดพระบรมสาทิสลักษณ์บนกำแพง ลุงพิการสระบุรีมอบดอกดารารัตน์ร่วมใช้ในพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ควาญช้างผู้เคยถวายงานเผยความรู้สึกปลาบปลื้ม และชาวพะเยาช่วยผู้ป่วยติดเตียง ทำความดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9


นักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในกลุ่มวงโยธวาทิตโรงเรียนวังไกลกังวลนับร้อยคนร่วมกันบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เช่น เพลงชะตาชีวิต, ใกล้รุ่ง รวมทั้งเพลงเทิดพระเกียรติ เช่น พ่อแห่งแผ่นดิน, ต้นไม้ของพ่อ, พระราชาในนิทาน นักเรียนต่างตั้งใจบรรเลงเพลงและร่วมขับร้องเพลงด้วยความตั้งใจและมีความไพเราะยิ่ง ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่ผ่านไปมาบริเวณด้านหน้าพลับพลาสถานีรถไฟหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยนักเรียนกลุ่มนี้สวมใส่เครื่องแบบชุดพิธีการ ซึ่งมีความสำคัญกับนักเรียนวังไกลกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องแบบพิธีการนี้ได้รับพระราชทานจากในหลวงรัชกาลที่ 9


ตลอดแนวกำแพงทิศเหนือ โรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง ถ.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช คณะครูอาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน วิทยาลัยศิลปหัตถกรรมนครศรีธรรมราช ร่วมกันวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระอิริยาบถทรงงาน โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชทุกหมู่เหล่ามาร่วมกันวาดภาพบนกำแพงด้านทิศเหนือของโรงเรียนเทศบาลวัดเสมาเมือง ซึ่งใครจะมาร่วมก็ได้ 


หลังเริ่มกิจกรรมมา 2 วัน มีคนมาเยี่ยมชมตลอดเวลา และยังมีผู้มีจิตศรัทธานำสิ่งของมาบริจาคจำนวนมากด้วย ทั้งเครื่องเขียน สี พู่กัน อาหาร และน้ำดื่ม  รวมไปถึงไฟส่องสว่างในช่วงกลางคืนด้วย หลังวาดภาพแล้ว จะมีการประดับด้วยต้นดาวเรืองริมกำแพง และจะตั้งซุ้ม “ภปร.-ธ สถิตในดวงใจ” ประดับต้นดาวเรือง บริเวณลานข้างกำแพงโรงเรียนด้วย หากใครจะบริจาคต้นดาวเรืองเพื่อมาประดับซุ้มก็ได้ ทั้งหมดจะให้เสร็จสวยงามก่อนวันที่ 10 ต.ค.นี้

ลุงแสวง จิตต์จันทึก ที่พิการขาขาด 2 ข้าง วัย 65 ปี อาศัยอยู่บ้านท้องถิ่นไทยเทิดไท้องค์ราชัน นำเงินส่วนตัวคนพิการและคนชรามาทำดอกไม้จันทน์ พร้อมกับครอบครัว ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว 300 ดอก ลุงก็นำขึ้นรถตุ๊กตุ๊กขับไปมอบให้นายกเทศบาลเมืองทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้ชาวทับกวางนำไปถวายดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

ลุงแสวง บอกว่า ดีใจและปลื้มใจมาก เพราะตนเองและครอบครัว พักอาศัยอยู่บ้านเทิดไท้ท้องถิ่นไทย ที่ได้รับพระราชทานจากพระองค์ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างที่สุด ซึ่งอยากจะกราบถวายบังคมพระบรมศพเบื้องหน้าพระโกศ แต่ด้วยร่างกายพิการ และจะเป็นภาระให้คนอื่น จึงตั้งใจขอมุ่งมั่นมาทำดอกไม้จันทน์ถวาย และจะขอทำความดี เดินตามคำสั่งสอนพ่อตลอดไป

นายชาตรี วรรณา ชาวบ้านขุนหาญ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ควาญช้างผู้เคยถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9 ถึง 2 ครั้ง ปลาบปลื้ม และรู้สึกประทับใจ จากภาพที่เจ้าตัวนำมาให้ดู ครั้งแรกขณะฝึกช้างอยู่ที่ชะอำ โดยพาช้างออกฝึกริมทะเล ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาพอดี และครั้งที่สอง ถวายงานแสดงความสามารถของช้างน้อยเฉพาะพระพักตร์

นายชาตรี บอกว่า ตนมาจากสุรินทร์ ได้ไปอยู่หัวหิน และได้ถวายงานใกล้ชิดในปี พ.ศ.2534 เป็นครั้งแรก โดยเป็นคนเลี้ยงช้าง พระองค์เสด็จฯ มาทางน้ำ  โดยทรงเรือใบมาจากวังไกลกังวล มาขึ้นที่ทำงานของตน คือ โรงแรมการ์เดนวิลเลจสมัยนั้น และครั้งที่สอง เสด็จฯ มาอีก ทางน้ำเหมือนเดิม เพราะทรงโปรดทรงกีฬาเรือใบ ได้เห็นพระองค์ทรงเรือใบตลอด เป็นความประทับใจที่สุดในชีวิต ที่ได้มีโอกาสนำช้างมาแสดง

คณะสงฆ์และนักเรียนผู้สูงอายุในพื้นที่ ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ร่วมกันทำกิจกรรมทำความดีเพื่อพ่อ โดยการนำข้าวของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนการนำวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง เข้าช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ที่ด้อยโอกาส

พระครูสุนทรวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมศีล ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา นำกลุ่มผู้สูงอายุของโรงเรียนผู้สูงอายุตำบลบ้านถ้ำ นำอุปกรณ์การก่อสร้าง เช่น กระเบื้องปูพื้นปูนซีเมนต์ ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน พร้อมทั้งเงินส่วนหนึ่ง เข้ามาเพื่อการช่วยเหลือนางเป็ง วงศ์ษา อายุ 84 ปี หญิงชราผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่หมู่ที่ 2 ต.บ้านถ้ำ เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยติดเตียงได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สืบเนื่องจากผู้สูงอายุในพื้นที่ ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นจิตอาสาของพระราชามูลนิธิราชประชาสมาสัยฯ ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ จึงได้นำข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เข้ามาให้นางเป็ง เพื่อเป็นการดูแลประชาชนของพระราชา และเป็นการตอบแทนในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระองค์เคยได้ทุ่มเทเสียสละให้พสกนิกรทั่วทุกคน ซึ่งในการทำกิจกรรมครั้งนี้ก็เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านเคยดูแลพวกเราตลอดมา ในครั้งนี้จึงอยากจะตอบแทนพระองค์ท่าน โดยการเข้าดูแลประชาชนที่ขาดโอกาสแทนพระองค์ท่าน เพื่อไม่ให้พระองค์ท่านมีความห่วงกังวลอีกต่อไป และน้อมนำส่งเสด็จในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ รวมทั้งเป็นการทำความดีถวายพ่อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้