กรมสุขภาพจิต จัดทีมดูแลจิตใจคนไทย ช่วงพระราชพิธี

กรมสุขภาพจิต 3 ต.ค.-กรมสุขภาพจิต รุกดูแลใจคนไทยทั่วประเทศ คลายความเศร้า สร้างความหวัง  ช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ 


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ภาพรวมการดูแลจิตใจประชาชนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2559 จนถึงปัจจุบันได้จัดทีม MCATTจากหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้บริการปฐมพยาบาลทางใจประชาชนจำนวน 194 ทีม ให้บริการด้านสุขภาพจิตกับประชาชน จำนวน 21,106 ราย พบภาวะสุขภาพจิต 5,435 ราย พบมากสุดคือกลุ่มที่มีภาวะเครียด 892 ราย ส่วนใหญ่เครียดจากปัญหาส่วนตัว รองลงมาคือ กลุ่มที่เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า 755 ราย ส่วนใหญ่มีภาวะซึมเศร้าอยู่ก่อน และพบปฏิกิริยาโศกเศร้าจากการสูญเสีย 687 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลทางใจ 3 ส.ได้รับคำปรึกษา รักษาด้วยยาและเอกสารความรู้ด้านสุขภาพจิต กรณีพบผู้รับบริการที่มีความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพจิตได้พิจารณาส่งต่อไปรับการรักษายัง รพ.ใกล้บ้าน หากมีอาการรุนแรงจะส่งต่อไปสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจคนไทยเริ่มดีขึ้น สามารถปรับตัวได้ จากการรวมพลังแปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดี สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ ทำให้เกิดกำลังใจและมีความเข้มแข็งทางจิตใจได้เร็วขึ้น


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงอาจกระตุ้นประสบการณ์ความสูญเสียและความเครียดในอดีต ทำให้เกิดภาวะสุขภาพจิตเกิดขึ้นได้ เช่น ปฏิกิริยาความโศกเศร้ารุนแรงที่แสดงออกในฝูงชน การร้องไห้ คร่ำครวญ กรีดร้อง ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือมีภาวะหายใจเร็ว(Hyperventilation) เกิดอาการมือจีบ ตัวเกร็ง เป็นลม ที่มักพบในช่วง 3 เดือนแรกหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา ในช่วงพระราชพิธีกราบพระบรมศพ 3เดือนแรก พบประชาชนเกิดปฏิกิริยาโศกเศร้าจากการสูญเสีย 687 ราย มีภาวะหายใจ 182 ราย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ช่วงส.ค.-ก.ย.2560  การเกิดภาวะหายใจเร็ว เป็นลม พบเพียงจำนวนน้อยราว 4-5 ราย ซึ่งกรมเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพจิตประชาชนไว้แล้ว โดยกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ที่มีความผูกพันสูง กลุ่มมีความเครียดจากปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจและในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชและผู้มีประวัติซึมเศร้าและพยายามฆ่าตัวตาย อาจมีอาการกำเริบได้จากความรู้สึกสูญเสีย


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า ในกลุ่มที่มีภาวะเครียดง่าย หรือมีภาวะซึมเศร้า หรือมีประวัติทำร้ายตนเอง ญาติและผู้ใกล้ชิดควรให้การดูแล หากพบมีลักษณะท่าทางที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สามารถขอรับบริการปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ส่วนกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช หากมาร่วมพระราชพิธี ไม่ควรหยุดรับประทานยาและควรมีญาติมาด้วย เพื่อช่วยดูแลผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม หากพบผู้มีปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เอะอะ โวยวาย หรือเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ได้เตรียมหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตในการรับผู้ป่วยให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไว้แล้ว ได้แก่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา สาหรับในส่วนภูมิภาค ได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตจัดทีม MCATT ให้บริการดูแลประชาชนในช่วงพระราชพิธีที่จัดขึ้นในจังหวัดต่างๆ อีกด้วย

สำหรับการดูแลจิตใจประชาชนช่วงตุลาคมนี้ ได้จัดทีม MCATT ดูแลจิตใจประชาชนไว้ ดังนี้ วันที่ 1-7 ต.ค.ปฏิบัติงานเวลา 09.00-17.00 น. โดยจัดทีม MCATT 1 ทีม ให้บริการดูแลประชาชน ณ บริเวณข้างศาลหลักเมืองด้านทิศใต้ วันที่ 18-22 ต.ค. ปฏิบัติงานเวลา 09.00-17.00 น. วันที่ 23-29 ต.ค. ปฏิบัติงานเวลา 08.00-20.00 น. โดยจัดทีม MCATT จำนวน 2 ผลัด เวลา 08.00-14.00 น. และ 14.00 -20.00 น. สำหรับในวันที่26 ต.ค.2560 ปฏิบัติงานเวลา 08.00-24.00 น. โดยจัดทีม MCATT จำนวน 3 ผลัด เวลา 08.00-12.00 น.และ12.00-18.00 น. และ18.00-24.00 น. สำหรับแนวทางการดูแลจิตใจช่วยเหลือกัน และกัน แนะให้ยึดหลักปฐมทางใจ 3 ส. ได้แก่ 1.สอดส่องมองหา (Look)

โดยค้นหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น ผู้แสดงอาการเศร้าโศกเสียใจรุนแรง กินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง 2.ใส่ใจรับฟัง (Listen) อย่างตั้งใจ รวมทั้งใช้ภาษากาย เช่น จับมือโอบกอด เพื่อช่วยให้ผู้สูญเสียบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก คลายความทุกข์ในใจ และ 3.ส่งต่อเชื่อมโยง (Link) โดยให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็นพื้นฐาน เช่น น้ำ อาหาร และยา หากไม่ดีขึ้น เช่น ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ โศกเศร้ารุนแรง มีความคิดฆ่าตัวตาย ให้พยายามติดต่อครอบครัวหรือชุมชนให้ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตก่อนที่จะส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป 

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ให้บริการจะดำเนินงานเชิงรุกเข้าหาประชาชนด้วยการใช้สื่อที่หลากหลาย เข้าร่วมพูดคุย ให้ความรู้ ตลอดจนรณรงค์เชิญชวนประชาชนคนไทยให้รวมพลังแปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดี คิดถึงพ่อ (ไม่เศร้า)…เราทำดี ผ่านศิลปินดารา เพื่อสร้างความหวังและกำลังใจที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้น

“การแปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดีเพื่อสร้างประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาติ ก้าวเดินตามรอยพระยุคลบาทให้สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9เป็นการช่วยสร้างขวัญและกำลังใจความหวังและความเข้มแข็งทางใจให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทุกคนสามารถทำได้โดย นำพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส หรือบทเพลงพระราชนิพนธ์ มาเป็นหลักธรรมในการดำเนินชีวิตได้ เช่น บทเพลง ใกล้รุ่ง ที่แฝงความหมายการรอคอย ความหวัง ความสำเร็จที่ดีกำลังจะบังเกิดขึ้นในชีวิตของคน เปรียบดังความดีงามของยามรุ่งอรุณ ที่มาให้แสงสว่าง ความอบอุ่นกับชีวิตมนุษย์ทุกคน ทั้งยังสามารถสื่อไปถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ตามพระประสงค์ของพระองค์ที่ตั้งพระทัยทำงาน เพื่อพสกนิกรมาโดยตลอด หรือบทเพลง ชะตาชีวิต พรรณนาความทุกข์ของคน ไร้ซึ่งทุกสิ่ง โดยหวังว่า “สักวันบุญมาชะตาคงดี” ซึ่งพระองค์ทรงเป็นความหวังให้ประชาชนทุกคนได้พบชะตาชีวิตที่ดีขึ้นในทั่วทุกสารทิศ เป็นต้น” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย