กรมสุขภาพจิต จัดทีมดูแลจิตใจคนไทย ช่วงพระราชพิธี

กรมสุขภาพจิต 3 ต.ค.-กรมสุขภาพจิต รุกดูแลใจคนไทยทั่วประเทศ คลายความเศร้า สร้างความหวัง  ช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ 


น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ภาพรวมการดูแลจิตใจประชาชนที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2559 จนถึงปัจจุบันได้จัดทีม MCATTจากหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้บริการปฐมพยาบาลทางใจประชาชนจำนวน 194 ทีม ให้บริการด้านสุขภาพจิตกับประชาชน จำนวน 21,106 ราย พบภาวะสุขภาพจิต 5,435 ราย พบมากสุดคือกลุ่มที่มีภาวะเครียด 892 ราย ส่วนใหญ่เครียดจากปัญหาส่วนตัว รองลงมาคือ กลุ่มที่เสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า 755 ราย ส่วนใหญ่มีภาวะซึมเศร้าอยู่ก่อน และพบปฏิกิริยาโศกเศร้าจากการสูญเสีย 687 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลทางใจ 3 ส.ได้รับคำปรึกษา รักษาด้วยยาและเอกสารความรู้ด้านสุขภาพจิต กรณีพบผู้รับบริการที่มีความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพจิตได้พิจารณาส่งต่อไปรับการรักษายัง รพ.ใกล้บ้าน หากมีอาการรุนแรงจะส่งต่อไปสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจคนไทยเริ่มดีขึ้น สามารถปรับตัวได้ จากการรวมพลังแปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดี สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ ทำให้เกิดกำลังใจและมีความเข้มแข็งทางจิตใจได้เร็วขึ้น


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวต่อว่า ช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงอาจกระตุ้นประสบการณ์ความสูญเสียและความเครียดในอดีต ทำให้เกิดภาวะสุขภาพจิตเกิดขึ้นได้ เช่น ปฏิกิริยาความโศกเศร้ารุนแรงที่แสดงออกในฝูงชน การร้องไห้ คร่ำครวญ กรีดร้อง ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือมีภาวะหายใจเร็ว(Hyperventilation) เกิดอาการมือจีบ ตัวเกร็ง เป็นลม ที่มักพบในช่วง 3 เดือนแรกหลังเกิดเหตุการณ์วิกฤตต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา ในช่วงพระราชพิธีกราบพระบรมศพ 3เดือนแรก พบประชาชนเกิดปฏิกิริยาโศกเศร้าจากการสูญเสีย 687 ราย มีภาวะหายใจ 182 ราย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ช่วงส.ค.-ก.ย.2560  การเกิดภาวะหายใจเร็ว เป็นลม พบเพียงจำนวนน้อยราว 4-5 ราย ซึ่งกรมเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพจิตประชาชนไว้แล้ว โดยกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ที่มีความผูกพันสูง กลุ่มมีความเครียดจากปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจและในกลุ่มผู้ป่วยจิตเวชและผู้มีประวัติซึมเศร้าและพยายามฆ่าตัวตาย อาจมีอาการกำเริบได้จากความรู้สึกสูญเสีย


อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวอีกว่า ในกลุ่มที่มีภาวะเครียดง่าย หรือมีภาวะซึมเศร้า หรือมีประวัติทำร้ายตนเอง ญาติและผู้ใกล้ชิดควรให้การดูแล หากพบมีลักษณะท่าทางที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม สามารถขอรับบริการปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ส่วนกลุ่มผู้ป่วยจิตเวช หากมาร่วมพระราชพิธี ไม่ควรหยุดรับประทานยาและควรมีญาติมาด้วย เพื่อช่วยดูแลผู้ป่วย อย่างไรก็ตาม หากพบผู้มีปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ เอะอะ โวยวาย หรือเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น ได้เตรียมหน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตในการรับผู้ป่วยให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไว้แล้ว ได้แก่ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา สาหรับในส่วนภูมิภาค ได้มอบหมายให้หน่วยงานสังกัดกรมสุขภาพจิตจัดทีม MCATT ให้บริการดูแลประชาชนในช่วงพระราชพิธีที่จัดขึ้นในจังหวัดต่างๆ อีกด้วย

สำหรับการดูแลจิตใจประชาชนช่วงตุลาคมนี้ ได้จัดทีม MCATT ดูแลจิตใจประชาชนไว้ ดังนี้ วันที่ 1-7 ต.ค.ปฏิบัติงานเวลา 09.00-17.00 น. โดยจัดทีม MCATT 1 ทีม ให้บริการดูแลประชาชน ณ บริเวณข้างศาลหลักเมืองด้านทิศใต้ วันที่ 18-22 ต.ค. ปฏิบัติงานเวลา 09.00-17.00 น. วันที่ 23-29 ต.ค. ปฏิบัติงานเวลา 08.00-20.00 น. โดยจัดทีม MCATT จำนวน 2 ผลัด เวลา 08.00-14.00 น. และ 14.00 -20.00 น. สำหรับในวันที่26 ต.ค.2560 ปฏิบัติงานเวลา 08.00-24.00 น. โดยจัดทีม MCATT จำนวน 3 ผลัด เวลา 08.00-12.00 น.และ12.00-18.00 น. และ18.00-24.00 น. สำหรับแนวทางการดูแลจิตใจช่วยเหลือกัน และกัน แนะให้ยึดหลักปฐมทางใจ 3 ส. ได้แก่ 1.สอดส่องมองหา (Look)

โดยค้นหาผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน เช่น ผู้แสดงอาการเศร้าโศกเสียใจรุนแรง กินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรัง 2.ใส่ใจรับฟัง (Listen) อย่างตั้งใจ รวมทั้งใช้ภาษากาย เช่น จับมือโอบกอด เพื่อช่วยให้ผู้สูญเสียบอกเล่าอารมณ์ความรู้สึก คลายความทุกข์ในใจ และ 3.ส่งต่อเชื่อมโยง (Link) โดยให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็นพื้นฐาน เช่น น้ำ อาหาร และยา หากไม่ดีขึ้น เช่น ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ โศกเศร้ารุนแรง มีความคิดฆ่าตัวตาย ให้พยายามติดต่อครอบครัวหรือชุมชนให้ช่วยป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตก่อนที่จะส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป 

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ให้บริการจะดำเนินงานเชิงรุกเข้าหาประชาชนด้วยการใช้สื่อที่หลากหลาย เข้าร่วมพูดคุย ให้ความรู้ ตลอดจนรณรงค์เชิญชวนประชาชนคนไทยให้รวมพลังแปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดี คิดถึงพ่อ (ไม่เศร้า)…เราทำดี ผ่านศิลปินดารา เพื่อสร้างความหวังและกำลังใจที่เข้มแข็งให้เกิดขึ้น

“การแปลงความโศกเศร้าเป็นพลังทำความดีเพื่อสร้างประโยชน์ให้ประชาชนและประเทศชาติ ก้าวเดินตามรอยพระยุคลบาทให้สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9เป็นการช่วยสร้างขวัญและกำลังใจความหวังและความเข้มแข็งทางใจให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทุกคนสามารถทำได้โดย นำพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส หรือบทเพลงพระราชนิพนธ์ มาเป็นหลักธรรมในการดำเนินชีวิตได้ เช่น บทเพลง ใกล้รุ่ง ที่แฝงความหมายการรอคอย ความหวัง ความสำเร็จที่ดีกำลังจะบังเกิดขึ้นในชีวิตของคน เปรียบดังความดีงามของยามรุ่งอรุณ ที่มาให้แสงสว่าง ความอบอุ่นกับชีวิตมนุษย์ทุกคน ทั้งยังสามารถสื่อไปถึงความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติ ตามพระประสงค์ของพระองค์ที่ตั้งพระทัยทำงาน เพื่อพสกนิกรมาโดยตลอด หรือบทเพลง ชะตาชีวิต พรรณนาความทุกข์ของคน ไร้ซึ่งทุกสิ่ง โดยหวังว่า “สักวันบุญมาชะตาคงดี” ซึ่งพระองค์ทรงเป็นความหวังให้ประชาชนทุกคนได้พบชะตาชีวิตที่ดีขึ้นในทั่วทุกสารทิศ เป็นต้น” อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร