แจ้งข้อหา”หลบเลี่ยงภาษี” 2ตำรวจพายิ่งลักษณ์หลบหนี

กรุงเทพฯ  29 ก.ย.-  ตำรวจแจ้งข้อหาหลบเลี่ยงภาษี เพิ่มกับ 2 ตำรวจพา”ยิ่งลักษณ์”  หลบหนีไปสระแก้ว 


พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ  และ พล.ต.ต.ภัคพงศ์  พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  ประธานกำกับดูแลการสอบสวนดำเนินคดีทางอาญา กับ 3 ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปสระแก้ว เพื่อหลบหนีคดีจำนำข้าว เดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน เพื่อรับมอบตัว พ.ต.ท.สามมิตร ไชยอิ่นคำ สารวัตรกองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ด.ต.พรพิพัฒน์  มากบุญงาม ปฏิบัติหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม หลังเจ้าหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษ  ให้ดำเนินคดีกับตำรวจทั้งสองกรณี กรมศุลกากรตรวจไม่พบหลักฐานการนำเข้าเครื่องยนต์ของรถยนต์โตโยต้าคัมรี่ ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์โดยสารไป จ.สระแก้ว ทำให้เชื่อว่าเป็นการนำเข้าโดยหลบเลี่ยงภาษี ประกอบกับบริษัท โตโยต้ามอเตอร์ ประเทศไทย  ยืนยันว่าไม่ได้จดประกอบและนำเข้าเครื่องยนต์ดังกล่าวเข้ามาในไทย จึงดำเนินคดีข้อหาผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษี  หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านศุลกากรฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี  หรือปรับเป็น 4 เท่าของราคาของ หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดรถปรากฎว่ามีตำรวจทั้งสองเป็นผู้ครอบครอบและดูแลอยู่ หากสอบสวนซักทอดว่าได้รับรถมาจาก พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 5 จะเรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป 

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังกล่าวถึงการเตรียมดำเนินคดีในมาตรา 157 เป็นเจ้าหน้าที่ปฎิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากผลตรวจดีเอ็นเอในรถยนต์โตโยต้าคัมรี่ ยืนยันเป็นดีเอ็นเอของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะสั่งให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์ ในข้อหาดังกล่าว เนื่องจากมีหน้าที่จับกุมบุคคลที่พาอดีตนายกฯ ไปแต่ไม่ดำเนินการ และในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับขับรถให้จำเลยและพาไป โดยข้อหานี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.สามมิตร และ ด.ต.พรพิพัฒน์   


ส่วนการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาดำเนินคดีที่ไทย สั่งการให้กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังสำนักงานใหญ่อินเตอร์โพล เพื่อขอให้ออกหมายแดง เพื่อแจ้งให้ 190 ประเทศสมาชิกทั่วโลกจับกุมทันทีที่พบเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และกรณีนายกรัฐมนตรีระบุว่า ยิ่งลักษณ์หลบหนีคดีอยู่ประเทศดูไบ เรื่องนี้ไม่ทราบเป็นข้อมูลของนายกฯ เพราะอินเตอร์โพลไทยรายงานว่ายังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัว 

นอกจากนี้ สั่งการให้ประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศแจ้งให้ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีหมายจับติดตัวและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประกาศสืบจับในสารระบบแล้ว เพื่อเป็นข้อมูลให้กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหนังสือเดินทางของ น.ส.ยิ่งลักษณ์  

ส่วนกรณีสื่อบางสำนัก ระบุว่า พ.ต.อ.วทัญญู  วิทยผโลทัย ผู้กำกับฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ใหญ่กว่าพลตำรวจเอก เพราะขอตรวจค้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ก่อนเข้าบ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ซอยโยธินพัฒนา 3 เมื่อวานนี้  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอชี้แจงว่าเป็นผู้สั่งการให้ พ.ต.อ.วทัญญู ตรวจค้นตัวเจ้าหน้าที่เอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เพราะเห็นว่าเป็นบุคคลที่อดีตนายกรัฐมนตรีไว้วางใจ และรู้จักพ่อบ้าน จึงให้เป็นคนนำตรวจค้น และยึดวิทยุสื่อสารเถื่อนได้อีก 4 เครื่อง กรณีนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงสั่งให้ชี้แจงเพื่อให้สังคมคลายข้อกังขา 


ขณะที่การตรวจค้นคอนโดฯ ของหญิงคนสนิท น.ส.ยิ่งลักษณ์  เมื่อวาน ยืนยันว่าเป็นการค้นถูกเป้าหมาย ไม่ได้ค้นผิดตามที่มีกระแสข่าว ส่วนรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่อยู่ข้างคอนโด ได้ตรวจสอบเพื่อประกอบในคดี แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพา น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี ส่วนรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ และกระบะ 4 ประตู รวมทั้งชายต้องสงสัย สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ที่เป็นคำให้การของ พ.ต.อ.ชัยฤทธิ์นั้น นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำชับให้เร่งตรวจสอบเร็วที่สุด  – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย