ตาก 27 ก.ย.-การบุกเบิกโครงการหลวง “เลอตอ” ที่ จ.ตาก โครงการหลวงสุดท้ายในรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อพัฒนาชีวิตชาวบ้าน ลดการปลูกฝิ่นบนดอยสูง ถวายเป็นพระราชกุศล เต็มไปด้วยความยากลำบากบนเส้นทางที่ทุรกันดาร แต่ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่ต้องการสืบสานพระราชปณิธาน เพียง 1 ปี โครงการหลวงแห่งนี้ได้เติบโตขึ้น
แปลงปลูกผักกลางหุบเขาบนดอยสูงที่บ้านเลอตอ อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก เปลี่ยนชีวิตของชาวบ้านที่นี่ จากบางส่วนที่เคยปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอย ไม่มีรายได้ที่แน่นอน หลังการตั้งโครงการหลวงเลอตอขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ชาวบ้านเริ่มปลูกผัก มีรายได้เดือนละ 3,000-4,000 บาท มีรอยยิ้มมากขึ้น
กว่าจะมาถึงวันนี้ ตลอด 1 ปี เจ้าหน้าที่โครงการหลวงและชาวบ้านเพียง 10 ราย ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ใช้จอบค่อยๆ ขุดดินพลิกฟื้นหุบเขาให้เป็นแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รีและผักอายุสั้นที่ปลูกง่ายขายได้เร็ว
รถกระบะที่ขนต้นกล้าพันธุ์ผักที่จะนำไปให้ชาวบ้านปลูกติดอยู่จุดนี้นานกว่า 10 ชั่วโมง เพราะถนนเป็นร่องลึกเละเป็นโคลน รถบรรทุกที่หนัก ล้อปั่นดินจนเพลาหน้าขาด จึงต้องใช้รถอีกคันลากขึ้นไป แม้แต่รถยนต์ชาวบ้านที่สัญจรไปมาช่วงนี้ไม่สามารถขึ้นได้ ต้องใช้เชือกช่วยกันดึงขึ้นมาแบบนี้
เส้นทางขึ้นสู่เลอตอ ไม่ว่าจะมาจากแม่ตื่น อมก๋อย เชียงใหม่ ระยะทาง 30 กิโลเมตร หรือขึ้นจากแม่ระมาด ตาก 45 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นในช่วงฝน นั่นทำให้การเข้าบุกเบิกพื้นที่โครงการหลวงเลอตอ รวมทั้งการขนพืชผักผลผลิตของโครงการออกสู่ตลาดลำบากมากขึ้น รถขนผักไถลลงดอยมาแล้วหลายคัน
บนเส้นทางที่ยากลำบาก ด้วยความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มุ่งมั่นที่จะสานต่อพระราชปณิธาน ผ่านไป 1 ปี แปลงผักเริ่มงอกงาม เก็บขายได้ ชาวบ้านจาก 10 ราย เพิ่มเป็นกว่า 100 ราย แปลงผักเพิ่มขึ้น ไร่ฝิ่นหายไปพร้อมๆ ผืนป่าหนาแน่นขึ้น จึงเป็นโครงการหลวงอีกแห่งหนึ่งซึ่งสำเร็จจากการก้าวตามรอยพ่อที่พระราชทานแนวทางพัฒนาให้โครงการหลวงมาเกือบ 50 ปี.-สำนักข่าวไทย