ภูมิภาค 25 ก.ย. – ภาคใต้หลายจังหวัดเกิดฝนตกหนักและพายุลมแรง ทำให้ต้นไม้ใหญ่หักโค่นปิดถนนสายหลัก และยังเกิดดินโคลนไหลทับเส้นทางสายหลัก จ.ระนอง
จ.ระนอง มฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้ช่วงเช้าวันนี้เกิดดินไหล และยังมีก้อนหินขนาดใหญ่ รวมถึงต้นไม้ด้านบนภูเขาไหลลงมากองทับบนถนนเพชรเกษมขาออก หลักกิโลเมตรที่ 555 บ้านบกกราย อ.กระบุรี ทำให้เหลือช่องการจราจรไม่ถึง 1 ช่องการจราจร รถยังสัญจรได้ แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง
เจ้าหน้าที่แขวงการทางระนอง ตำรวจ สภ.กระบุรี ตำรวจทางหลวงระนอง ต่างระดมกำลังมาอำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยนำกรวยและป้ายเตือนมาติดตั้ง ขณะนี้เจ้าหน้าที่แขวงการทางยังไม่สามารถตักดินออกได้ เนื่องจากยังมีฝนตก ดินไหลลงมาต่อเนื่อง
เมื่อคืนที่ผ่านมา จ.พังงา เกิดพายุลมแรงและฝนตกหนัก ทำให้ต้นกระถินเทพาบริเวณริมถนนเพชรเกษม ม.4 บ้านรมณีย์ สายอำเภอตะกั่วป่า-สุราษฎร์ธานี บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 17 ทางหลวงหมายเลข 401 หักโค่นล้มลงมาปิดช่องทางการจราจรทั้งขาเข้า อ.ตะกั่วป่า และจะไปทางสุราษฎร์ธานี ไม่สามารถผ่านไปมาได้นานกว่า 3 ชั่วโมง รถติดยาวกว่า 2 กิโลเมตร จิตอาสา กำนัน ผู้ใหญ่บ้านนำเลื่อยและเครื่องมือตัดต้นไม้ที่ล้มขวางเส้นทาง ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดการจราจรให้รถผ่านได้ตามปกติ
ที่ จ.แม่ฮ่องสอน หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากพัดร่างสองแม่ลูกหายไปเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ในช่วงเช้าวันนี้ ชาวบ้านยังระดมกำลังออกค้นหาร่างผู้สูญหายโดยหวังว่าจะเจอเพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนา โดยตั้งชุดควบคุมการค้นหาผู้สูญหายอยู่ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านแม่ลางิ้ว อ.แม่ลาน้อย และจัดกำลังเสริมจากหลายหน่วยงานร่วมกับชาวบ้านกว่า 100 คน กระจายกำลัง 2 ฝั่งลำน้ำแม่แลบ ออกค้นหาผู้สูญหายเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร และเมื่อเวลา 11.00 น. พบศพนางสุดา บรรพตดิลก ติดอยู่ใต้ซากไม้บริเวณลำห้วยแม่ลากี๊
ส่วนการเข้าไปฟื้นฟูบ้านเรือนราษฎรบ้านขุนแม่แลบและบ้านแม่ลางิ้ว ที่ได้รับความเสียหาย ยังเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถนนขาดไม่สามารถเข้าหมู่บ้านได้ ขณะที่สะพาน ฝาย และประปา ไม่สามารถใช้การได้ จึงประสานกับ อบต.แม่ลาน้อย องค์การบริหารส่วนจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเครื่องจักรกลจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 เข้าไปดำเนินการ เพื่อให้รถยนต์สามารถนำสิ่งของเข้าไปบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่ประสบภัย เนื่องจากหมู่บ้านขุนแม่แลบ มีดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง ประชาชนต้องเดินเท้ากว่า 4 กิโลเมตร เพื่อออกจากหมู่บ้าน . – สำนักข่าวไทย
