จันทบุรี 18 ธ.ค. – ต้นสะตอป่าขนาดใหญ่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จ.จันทบุรี โค่นล้มพาดสายไฟ ทำให้เสาไฟฟ้าล้มระเนระนาด และมีผู้เคราะห์ร้ายถูกเสาไฟฟ้าทับเสียชีวิต 1 ราย เป็นอดีตครู วัย 63 ปี
เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลา 10.00 น. วันนี้ (18 ธ.ค.65) เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบศพ น.ส.ติรัตน์ อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครู ภูมิลำเนา อ.เมืองน่าน ซึ่งเสียชีวิตในสภาพถูกเสาไฟฟ้าโค่นทับร่างจมกองเลือด และจากการชันสูตรเบื้องต้นพบบาดแผลศีรษะยุบ กะโหลกแตก กระดูกด้านในหัก
ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางขึ้นสำนักงานอุทยานฯ บริเวณด้านหลังป้อมจำหน่ายบัตร พบต้นสะตอป่าขนาดใหญ่ สูงกว่า 40 เมตร อายุกว่า 40 ปี ริมถนน โค่นทับสายไฟฟ้าที่อยู่อีกฝั่ง จนทำให้เสาไฟฟ้าตลอดทางขึ้นอุทยานฯ ล้มระเนระนาด 4 ต้น โดยเสาไฟฟ้าต้นที่ 3 จากทางขึ้นได้โค่นทับผู้เสียชีวิต
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายและญาติรวม 7 คน เดินทางมาพักผ่อนที่จันทบุรี และวันนี้กำลังจะเดินทางกลับน่าน จึงแวะเที่ยวน้ำตกพลิ้ว หลังเที่ยวเสร็จกำลังจะกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ด้านนอกอุทยานฯ ผู้ตายได้เดินลงมาก่อน จังหวะนั้นญาติๆ มองเห็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในระยะไกลโค่นล้มลงมา ก่อนที่เสาไฟฟ้าจะล้มระเนระนาด และได้ยินคนตะโกนว่ามีคนบาดเจ็บ จึงรีบวิ่งเข้าไปดู
ด้านนายธวัช เจนการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เข้าไปแสดงความเสียใจกับญาติๆ พร้อมอำนวยความสะดวกนำศพกลับภูมิลำเนา รวมถึงเยียวยาตามระเบียบราชการ ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตต่างเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ ไม่สามารถควบคุมได้ แต่ขอให้ทางอุทยานฯ เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เกิดลมกระโชกแรงต่อเนื่อง จึงเพิ่มเจ้าหน้าที่สอดส่องดูแล แม้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้กวดขันเฝ้าระวังต้นไม้ใหญ่ และติดป้ายเตือนให้ระมัดระวังเรื่องกิ่งไม้ร่วงหล่น แต่สุดท้ายยังเกิดเหตุการณ์สูญเสีย. – สำนักข่าวไทย