กรุงเทพฯ 22 ก.ย.-ตำรวจนำรถเก๋งต้องสงสัยที่คาดว่าใช้พาอดีตนายกรัฐมนตรีหนี ไปตรวจพิสูจน์ เบื้องต้นพบเป็นรถที่มีการดัดแปลงสภาพ เป็นรถถูกสวมทะเบียน และมีร่องรอยคล้ายเคยติดสติกเกอร์ตราโล่มาก่อน
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานนำอุปกรณ์เข้าเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือและดีเอ็นเอภายในรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี่ สีเทา ติดป้ายทะเบียนปลอม หมวด ฌข 5323 กรุงเทพฯ โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจร่วมสังเกตการณ์ โดยรถคันดังกล่าวเป็นรถต้องสงสัยที่ปรากฏตามภาพวงจรปิด บริเวณด่านทหาร จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม เวลา 22.07 น. ซึ่งทางการสืบสวนมีข้อมูลเชื่อได้ว่า เป็นรถที่ใช้พา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลบหนี ไม่ไปฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว จนฝ่ายสืบสวนได้ตามแกะรอยรถต้องสงสัยดังกล่าว กระทั่งมาพบรถจอดใกล้กับบ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.นครปฐม
ขณะที่การตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นรถถูกสวมทะเบียน โดยหมายเลขเครื่อง ตัวถัง และทะเบียนรถ ปรากฏชื่อผู้ครอบครองไม่ตรงกัน โดยกรมการขนส่งทางบกแจ้งระงับการใช้งานรถคันดังกล่าวปี 2555 เนื่องจากขาดส่งไฟแนนซ์ ส่วนภายในรถไม่พบมีเอกสารและหลักฐานสำคัญอยู่ และมีความเป็นไปได้ว่าเป็นรถยนต์นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งในไทยมีเพียง 24 คัน
สำหรับทางการข่าวระบุว่า คันคันนี้ เป็นรถ 1 ใน 2 คัน ที่ถูกนำไปเปลี่ยนกับรถของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ย่านมีนบุรี ก่อนจะพาหลบหนีไปทางอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวได้รับคำสั่งให้นำไปทำลายทิ้ง ก่อนที่ต่อมาผู้ได้รับคำสั่งจะเปลี่ยนใจนำรถคันนี้ไปเก็บรักษาไว้ เพื่อรอนำไปดัดแปลงสภาพและขายต่อ
ขณะที่การเก็บรวบรวมดีเอ็นเอไปก็เพื่อคัดแยกกลุ่มตัวอย่าง เช่น แยกเป็นกลุ่มเพศ เปรียบเทียบกับบุคคลต้องสงสัย ขณะเดียวกันยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีดีเอ็นเอสมบูรณ์ภายในรถทั้งหมดกี่ชุด เนื่องจากมีหลายองค์ประกอบในการทำให้ดีเอ็นเอไม่สมบูรณ์ เช่น ความร้อน สภาพการเก็บรักษา แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไม่ว่าจะมีการทำลายดีเอ็นเอภายในรถไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ก็อาจยังมีดีเอ็นเอหลงเหลืออยู่ โดยขั้นตอนนี้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน พิจารณาออกหมายค้น นอกจากนี้ ในสำนักงานของรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังมีการนำพยานที่เกี่ยวข้องกับรถ 2 ใน 3 คน มาสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งไม่มีการยืนยันว่าเป็นข้าราชการตำรวจหรือไม่
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตร่องรอยคล้ายสติกเกอร์ตราโล่ ที่ข้างประตูคนนั่งด้านหน้าทั้ง 2 ฝั่ง ผู้สื่อข่าวได้รับการชี้แจงจากแหล่งข่าวว่ารถคันนี้ไม่ใช่รถที่ใช้ในราชการตำรวจ ส่วนร่องรอยสติกเกอร์นั้นใครก็สามารถนำไปติดได้.-สำนักข่าวไทย