กรมสบส.21 ก.ย.-กรม สบส.ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รพ.เอกชน หลังญาติผู้ป่วยติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอาการแพ้ยาวัณโรคที่ รพ.เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการมีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย
จากกรณี การเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อโซเชียลถึงชาย อายุ 45 ปี ซึ่งเข้ารับการรักษาอาการแพ้ยาแก้วัณโรคที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อต้นเดือนสิงหาคม จนอาการดีขึ้นเกือบหายเป็นปกติแต่แพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวได้มีการปรับยาแก้วัณโรค เพื่อตรวจสอบว่าผู้ป่วยจะมีอาการแพ้ยาอีกหรือไม่ จนผู้ป่วยมีอาการแย่ลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งญาติผู้ป่วยติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอาการป่วย หรือเกิดจากการแพ้ยา นั้น
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กรมได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยจะตรวจสอบในประเด็นสำคัญ 2 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 คือ 1.ผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมีการควบคุมและดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลของตนให้ปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่
และ2.สถานพยาบาลมีการควบคุม คุณภาพ มาตรฐาน ครบถ้วนทั้ง5 ด้าน ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งประกอบด้วย 1)สถานที่ สะอาด เหมาะสมแก่การให้บริการ
2)แพทย์ผู้ให้บริการมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมถูกต้อง
3)การบริการเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
4)เครื่องมือ ยา และเวชภัณฑ์ มีคุณภาพได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ5)ความปลอดภัย มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตในกรณีฉุกเฉิน หรือไม่เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (สพรศ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบเวชระเบียน และเอกสารทางการแพทย์ ในเบื้องต้น โดยพนักงานเจ้าหน้าที่จาก สพรศ.พบว่า รพ.เอกชนดังกล่าว มีการจัดบริการทางการแพทย์เป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดแต่เรื่องการดูแลมาตรฐานการรักษา พยาบาลซึ่งเป็นมาตรฐานการประกอบวิชาชีพจะเสนอให้คณะกรรมการ และผู้เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป และเพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการในด้านระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ปลอดภัย .-สำนักข่าวไทย