กรมควบคุมมลพิษ 21ต.ค.-กรมควบคุมมลพิษเผยผลพิสูจน์ ทุกหน่วยงาน พบสาเหตุปลากระเบนราหูในแม่น้ำแม่กลอง ตายเพราะสารแอมโมเนีย จากน้ำกากส่ารั่วไหลลงแม่น้ำ เตรียมแจ้งความเอาผิดโรงงานต้นเหตุ
นายวิจารย์ สิมาฉายา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยผลพิสูจน์สาเหตุการตายของปลากระเบนราหูในแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งล่าสุดรวม55 ตัวแล้ว ว่า กรมควบคุมมลพิษได้ตั้งสมมติฐานการตายว่าเกิดจากระดับความเข้มข้นของแอมโมเนียอิสระสูง ซึ่งเป็นผลจากการรั่วไหลของน้ำกากส่า ที่มีการระบายทิ้งจากโรงงานเอทานอลราชบุรีและสะสมในแม่น้ำแม่กลอง จนทำให้เป็นพิษต่อปลากระเบนราหูและสัตว์น้ำอื่นๆเนื่องจากปลาไม่สามารถขับแอมโมเนียออกจากร่างกายได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีออกซิเจนละลายในน้ำต่ำ หรือสภาวะไร้อากาศในท้องน้ำ
โดยกรมควบคุมมลพิษได้ทำการทดลองเพื่อยืนยันสมมุติฐานดังกล่าวด้วยการจำลองสภาพแหล่งน้ำธรรมชาติแล้วเติมน้ำกากส่า ในอัตราส่วนหนึ่งต่อ 1:130 ซึ่งเป็นอัตราการไหลของน้ำในช่วงเวลานั้น แล้วทำการวัดแอมโมเนียอิสระอย่างต่อเนื่องทุก 15 นาที ซึ่งผลการทดลองพบว่าค่าแอมโมเนียอิสระ เพิ่มมากขึ้นตามระยะเวลาที่เพิ่มขึ้น โดยมีค่าเริ่มต้น 0.10 มิลลิกรัมต่อลิตรและเพิ่มขึ้นเป็น1.1 มิลลิกรัมต่อลิตร เมื่อเวลาผ่านไป 46 ชั่วโมง ซึ่งค่าดังกล่าวเกินกว่าค่าความปลอดภัยต่อสัตว์น้ำประมาณ 18 เท่า มีผลทำให้ปลาตายเฉียบพลัน ซึ่งผลการพิสูจน์ทุกประเด็นสอดคล้องกับทุกหน่วยงาน รวมถึงผลการผ่าพิสูจน์ซากกระเบนราหูของ สัตวแพทย์หญิงนันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ระบุว่าปลากระเบนได้รับสารเคมีที่เป็นพิษต่อระบบไตและระบบเลือดและยังพบว่าความสามารถในการควบคุมความสมดุลในร่างกายเสียไปด้วย ประกอบกับบริษัทราชบุรีเอทนอล จำกัด ได้ออกมายอมรับว่ามีน้ำกากส่าในบ่อสุดท้ายที่ผ่านการบำบัดแล้วของโรงงานรั่วไหลลงแม่น้ำแม่กลองเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 เวลา 08:50 น.จริง โดยมีหนังสือชี้แจงถึงประธานกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง
นอกจากนี้ที่สำคัญมีปัจจัยร่วมด้วย คือช่วงเวลาเกิดเหตุมีน้ำทะเลหนุนสูง น้ำจากแม่น้ำแม่กลองไม่สามารถระบายออกสู่ทะเลได้ กากน้ำส่าบางส่วนจึงตกตะกอนค้างในท้องน้ำและสะสมจนเกิดพิษรุนแรงขึ้น จนเป็นเหตุให้ปลากระเบนและสัตว์น้ำอื่นๆตายเป็นจำนวนมาก สำหรับการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปสัปดาห์หน้า กรมควบคุมมลพิษจะดำเนินร้องทุกข์กล่าวโทษโรงงานที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนล่าสุดสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว .-สำนักข่าวไทย