สำนักงบฯ เร่งส่วนราชการเบิกจ่ายงบปี 61

สำนักงบฯ 16 ก.ย. – สำนักงบฯ กำชับส่วนราชการ เร่งรัดเบิกจ่ายงบปี 61 ตามเป้าร้อยละ 96 วงเงินรายจ่าย 2.9 ล้านล้านบาท


นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ชี้แจงมาตการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณปี  2561 ให้หัวหน้าส่วนราชการ หลังจากที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2561 เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดย ครม.กำหนดเป้าหมายเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมร้อยละ 96 จากกรอบงบประมาณรายจ่าย 2.9 ล้านล้านบาท กำหนดให้เบิกจ่ายงบประจำร้อยละ 98.3 งบลงทุนร้อยละ 83 ส่วนการเบิกจ่ายรายไตรมาส กำหนดให้ไตรมาสแรกเบิกจ่ายร้อยละ 30.21 ของงบประมาณได้รับการจัดสรร ไตรมาส 2 เบิกจ่ายร้อยละ 22 ไตรมาส 3 เบิกจ่ายร้อยละ 22 ไตรมาส 4 เบิกจ่ายร้อยละ 21.6 

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ทุกส่วนราชการเร่งจัดทำแผนการใช้จ่ายงบฯ ส่งสำนักงบประมาณภายในวันที่ 15 กันยายนนี้ ก่อนเริ่มใช้ประมาณ 15 วัน หลังจากรัฐบาลเปิดทางให้ส่วนราชการเริ่มจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่งบประมาณผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระ 2,3 เพื่อเริ่มเบิกงบประมาณภายในไตรมาสแรก กำหนดเงื่อนไขให้เบิกจ่ายงบประจำของส่วนราชการตั้งแต่ไตรมาสแรก ส่วนงบสำหรับอบรมสัมมนาไตรมาสแรกเบิกจ่ายร้อยละ 50 จากงบที่ขอจัดสรรทั้งหมด ส่วนงบด้านการลงทุนให้เร่งจัดเตรียมที่ดินก่อสร้าง รูปแบบการลงทุน ความพร้อมงบประมาณ  ในส่วนการงบลงทุนระยะสั้น 1 ปี ต้องเบิกจ่ายภายในไตรมาสแรก การลงทุนพิเศษ จัดซื้อซับซ้อน จัดซื้อจากต่างประเทศ หรือวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท หรืองบผูกพันใหม่เบิกจ่ายให้เสร็จภายในไตรมาส 2 จากนั้นกำหนดให้ส่วนราชการรายงานการเบิกจ่ายงบประมาณเป็นรายเดือน รายไตรมาสไปยังระบบของสำนักงบประมาณ เพื่อแจ้ง ครม.ทราบการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมาย


นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดทำงบประมาณรายจ่ายปี 2562 ได้เร่งรัดจัดทำให้เร็วกว่าทุกปี เตรียมประชุม 4 หน่วยงาน กระทรวงคลัง สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อเสนอ ครม.พิจารณากรอบงบประมาณรายจ่ายในเดือนมกราคม จากนั้นจะให้ส่วนราชการส่งแผนขอจัดสรรงบประมาณภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์  โดยปี 2562 เริ่มจัดทำยุทธศาสตร์งบประมาณภาพรวม และงบประมาณรายภาค  ด้วยการกำหนดให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณรายภาค 6 ภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ภาคใต้ชายแดน  การจัดทำงบประมาณครั้งนี้จึงมีเวลาการรับฟังความเห็นจากพื้นที่จากองค์กรในท้องถิ่น เพื่อสะท้อนความต้องการใช้งบประมาณให้สอดคล้องกับศักยภาพพื้นที่ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาฉบับที่ 12 เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขั้น.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร