เตรียมดึงผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนสวัสดิการ 1.2 ล้านคนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – สศค.เตรียมเตรียมดึงผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนกว่า 1.2 ล้านคน มีปัญหาหนี้นอกระบบ เปิดทางกู้เงินกับออมสิน และธ.ก.ส. ไม่ต้องใช้หลักประกัน พร้อมส่งรายชื่อให้ธนาคารทั่วประเทศแล้วเพื่อดึงเข้าเป็นลูกหนี้ในระบบ


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)  เปิดเผยว่า ผู้มีรายได้น้อยที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 11.4 ล้านคน มีผู้เป็นนี้นอกระบบจำนวน 1.2 ล้านคน รวมเป็นมูลหนี้กว่า 64,000 ล้านบาท จึงเตรียมให้แบงก์รัฐ ทั้ง ธ.ก.ส.และออมสิน ดึงรายชื่อชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว เข้าไปประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ เพื่อดึงเข้ามาใช้เงินกู้ในระบบแทน โดยธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. เตรียมวงเงินแห่ง 5,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ รายละ 5 หมื่นบาท ผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี  

ขณะนี้ได้มีลูกหนี้นอกระบบยื่นขอกู้ผ่านทั้งสองแบงก์แล้ว  106,123 ราย วงเงิน 4,796 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 31 สิงหาคม   และเพื่อให้ประชาชนผู้มีหนี้นอกระบบได้เข้าถึงแหล่งเงินในระบบมากขึ้น จึงต้องปรับลดเกณฑ์การขอสินเชื่อสำหรับผู้เป็นหนี้นอกระบบ โดยไม่ต้องต้องใช้หลักค้ำประกันประกอบการขอสินเชื่อกับธนาคารขอรัฐ เพื่อเปิดทางการขอสินเชื่อไปชำระหนี้นอกระบบของแบงก์รัฐ นอกจากนี้ยังได้เสนอ รายชื่อผู้ประกอบการพิโคไฟแนนซ์ เพื่อให้รมว.คลังพิจารณาออกใบอนุญาต 20 จากปัจจุบันมีจำนวน 160 ราย คาดว่าทั้งปีจะมีผู้ประกอบการพิโค่ไฟแนนซ์ 200 ราย กระจายไปในชุมชนต่างๆทั่วประเทศ  ขณะนี้ได้เริ่มปล่อยกู้บ้างแล้ว 63 ราย ใน 32 จังหวัด รวมเป็นยอดปล่อยกู้แล้วกว่า 42 ล้านบาท 


หากปัญหาหนี้รายใดยังตกลงกันไม่ได้ คณะกรรมการฟื้นฟูภาระหนี้ระดับจังหวัด ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ ทหาร กรมสรรพากร และหน่วงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเจรจาหนี้ เพื่อดึงให้เข้าสู่ระบบ ทั้งแบงก์รัฐ พิโค่ไฟแนนซ์ เพื่อลดภาระการผ่อนชำระรายวัน รายเดือนของลูกหนี้ แม่ค้าบางรายแบกรับภาระจ่ายดอกเบี้ย 5,000 บาทต่อเดือนแต่เงินต้นยังไม่ลด แต่หากมาใช้เงินในระบบลดภาระ ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย 1-2 พันบาทต่อเดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 0.28 ต่อเดือน จึงต้องการให้รายย่อยเร่งติดต่อกับแบงก์ออมสิน ธ.ก.ส. เพราะนายกรัฐมนตรีมีนโยบายให้ภาระหนี้นอกระบบเป็นศูนย์ในปีนี้.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย