กรุงเทพฯ14 ก.ย.- องค์การสวนสัตว์ฯ ประสบความสำเร็จเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยทั้งในสวนสัตว์และในพื้นที่ธรรมขาติ เป็นครั้งแรกของโลก ล่าสุดปีนี้ได้ลูกนกกำเนิดใหม่กว่า14ตัวแล้ว
นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในระยะ 2-3 ปี ที่ผ่านมาองค์การสวนสัตว์ฯ ประสบความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยทั้งในสวนสัตว์และที่ปล่อยคืนสู่พื้นที่ธรรมชาติ ซึ่งมีการวางไข่และให้กำเนิดลูกนกเป็นครั้งแรกของโลก โดยนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่เพาะขยายพันธุ์และคืนสู่พื้นที่ตามธรรมชาติ ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน ซึ่งได้ปล่อยไปแล้ว 82 ตัว ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน จังหวัดบุรีรัมย์ โดยในปี 2559 ที่ผ่านมานกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ปล่อยคืนพื้นที่ธรรมชาติเหล่านี้ได้ให้กำเนิดลูกนกเป็นครั้งแรกของโลกและต่อมาในเดือนสิงหาคมปีนี้มีนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้วางไข่อีกครั้ง จำนวน 8 รัง ซึ่งเกิดจากพ่อแม่นกกระเรียนที่ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติจำนวน 8 คู่ แต่ละรังวางไข่จำนวน 2 ฟอง รวมเป็น 16 ฟอง และฟักออกเป็นตัวแล้วจำนวน 7 รังรวม 14 ตัวแต่มีชีวิตรอดเพียง 12 ตัวเนื่องจากไม่แข็งแรง 2 ตัว และมี1รังพบลูกนกตายตั้งแต่อยู่ในไข่ทั้ง2ฟอง ซึ่งองค์การสวนสัตว์จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดแต่จะไม่รบกวน และปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ ล่าสุดมีนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่อยู่ในส่วนจัดแสดงของสวนสัตว์ดุสิต ได้วางไข่และให้กำเนิดลูกนก จำนวน 2 ตัวเป็นครั้งแรกเช่นกัน ซึ่งผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ฯ ระบุว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นเนื่องจากได้มีการปรับปรุง การดูแลและจัดการสัตว์ที่ดีขึ้นทุกด้านในทุกสวนสัตว์ในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา ทำให้สัตว์มีสุขภาพดีและมีสภาพแวดล้อมเหมาะสมในการขยายพันธุ์ โดยยังคงเดินหน้าโครงการปล่อนนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่เพาะพันธุ์ได้จากสวนสัตว์นครราชสีมา เฉลี่ยปีละ10ตัว คืนสู่ธรรมชาติต่อเนื่องทุกปี เพื่ออนุรักษ์สัตว์ป่าที่เคยสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติให้กลับมาอยู่ในพื้นที่ธรรมชาติอย่างยั่งยืนอีกครั้ง
ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ กล่าวด้วยว่า เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวสู่มาตรฐานสากล องค์การสวนสัตว์ได้เปิดส่วนจัดแสดงแห่งใหม่ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ในรูปแบบ “Forest of asia” จัดแสดงสัตว์หายากที่มีถิ่นอาศัยในพื้นที่ป่าของทวีปเอเซีย และป่าไม้นานาพันธุ์ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่า และมีไฮไลท์เป็นส่วนแสดงช้างว่ายน้ำหนึ่งเดียวในไทยที่สมบูรณ์แบบเทียบเท่าระดับโลก ซึ่งเปิดมาได้ประมาณเดือนเศษ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย