ลำปาง 9 ก.ย. – ช่วงนี้ยังอยู่ในฤดูทำนา ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารพื้นบ้านในนาข้าว อย่างน้ำปู เครื่องปรุงอาหารพื้นบ้านล้านนาที่ทำจากปูนา โดยเฉพาะที่ อ.แจ้ห่ม แหล่งทำน้ำปูขึ้นชื่อของเมืองลำปาง ซึ่งยังอนุรักษ์ภูมิปัญญาการถนอมอาหารชนิดนี้ไว้และสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านที่ผลิตน้ำปู ซึ่งขายได้ถึงกิโลกรัมละ 800 บาท และเริ่มมีการเพาะเลี้ยงปูนาสำหรับทำน้ำปูกันแล้ว
นาข้าวที่กำลังเขียวขจี ใกล้บ้านหนองนาว อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เป็นช่วงเวลาที่กลุ่มแม่บ้านจะออกหาปูนา นอกจากป้องกันไม่ให้กัดกินต้นข้าวแล้วยังเป็นวัตถุดิบสำคัญในการนำไปทำสุดยอดเครื่องปรุงอาหารพื้นบ้านล้านนา อย่างน้ำปู ภูมิปัญญาการถนอมอาหารที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน และเป็นสินค้าขึ้นชื่อของอำเภอแจ้ห่มด้วย
หลังจากเก็บปูนาทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ได้พอสมควรแล้ว จะนำปูนามาล้างให้สะอาด พร้อมกับเตรียมส่วนผสมซึ่งไม่มีอะไรมาก นอกจากผักพื้นบ้านอย่างใบข่าและตะไคร้ เพื่อดับคาวปูนา
จากนั้นนำปูนาตำกับใบข่าและตะไคร้ให้ละเอียด เติมน้ำสะอาด คั้นแยกกากออกให้เหลือแต่น้ำและพักไว้ 1 คืน ก่อนจะนำน้ำปูไปใส่หม้อดินเผา ตั้งไฟปรุงรสด้วยเกลือ ค่อยๆ เคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้งวด ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะหากไฟแรงหรือเคี่ยวนานเกินไป น้ำปูจะมีรสขม เมื่อเหนียวได้ที่จะได้น้ำปูสีดำสนิท กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้น รอให้เย็นบรรจุใส่กระป๋องออกจำหน่ายในราคาขีดละ 80 บาท หรือกิโลกรัมละ 800 บาท ขายได้ 5,000-6,000 บาทต่อการทำ 1 ครั้ง และเก็บไว้ในตู้เย็นได้ถึง 3 ปี รสชาติไม่มีเปลี่ยน
น้ำปูจากปูนาธรรมชาติ100% รสชาติหอม กลมกล่อม กลายเป็นสุดยอดเครื่องปรุงยอดนิยมของชาวเหนือที่นำไปเป็นส่วนผสมอาหารพื้นเมืองทั้งตำน้ำพริกน้ำปู ใส่ส้มตำ ยำหน่อไม้ ช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมของน้ำปู ได้รสชาตความอร่อยไปอีกแบบหนึ่ง นอกจากรายได้แล้ว ยังเป็นความภูมิใจในการสืบทอดภูมิปัญญาอาหารพื้นบ้านจากรุ่นสู่รุ่นด้วย
แต่จำนวนปูนาที่ลดลงเรื่อยๆ และหายากขึ้น ทำให้มีวัตถุดิบไม่พอกับการทำน้ำปู กลุ่มชาวบ้านหนองนาว จึงเริ่มเพาะเลี้ยงปูนา ซึ่งได้ผลดี ทำให้ในอนาคตสามารถผลิตน้ำปูขายกันได้ตลอดทั้งปี และยังมีวัตถุดิบที่จะให้คนรุ่นหลังที่สนใจได้มาเยี่ยมชมศึกษาและสืบทอดการทำน้ำปูสุดยอดเครื่องปรุงอาหารล้านนาจากรุ่นนี้ไปถึงรุ่นหน้าและรุ่นต่อๆ ไปได้มากขึ้นด้วย. – สำนักข่าวไทย