น้ำมนต์รับลวงชายแต่งานหวังสินสอดแค่ 7 รายที่เหลือรักจริง

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ตำรวจสอบปากคำ” น้ำมนต์ “ ลวง 14 ชายแต่งงานก่อนเชิดสินสอดหลบหนี รับรักจริงและแต่งงานแค่ 7 ราย ที่เหลือหวังแค่ทรัพย์สิน ยังโทษผู้ชายถ้าไม่โลภคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้


พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมพล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงผลการจับกุมน.ส.จริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือน้ำมนต์ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดเลย ผู้ต้องหาหลังถูกผู้เสียหายเป็นชาย 14 ราย เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงและยักยอกทรัพย์ จากกรณีหลอกผู้ชายแต่งงานแล้วเชิดเงินสินสอดหลบหนี โดยจับกุมได้ที่ ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมกับสามีคนปัจจุบันขณะกำลังหลบหนี 

จากการตรวจสอบพบผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงผู้ชายตั้งแต่ปี 2554 โดยใช้แอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊กในการติดต่อเหยื่อแล้วใช้ถ้อยคำหว่านล้อมด้วยคำหวานจนฝ่ายชายหลงรักจนยอมแต่งงาน บางรายใช้กลอุบายอ้างว่าตัวเองท้องฝ่ายชายจึงยอมตกลงแต่งงานด้วย แล้วบอกว่าแท้งในภายหลัง แต่ทุกรายจะชักชวนฝ่ายชายทุกคนร่วมลงทุนธุรกิจสวนผลไม้ โดยผู้เสียหายบางรายก็ยอมรับว่าหวังผลทางธุรกิจจริง จึงยอมตกลงแต่งงานด้วย ขณะเดียวกันเมื่อแต่งงานกันแล้วจะอยู่กินกันเพียง 1-2 วันเท่านั้น แล้วค่อย ๆ ตีตัวออกห่างก่อนเชิดเงินสินสอดและทรัพย์สินหลบหนี 


ขณะที่การสอบปากคำผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตนเองทำอาชีพค้าผลไม้ และมีโอกาสพบผู้เสียหายมากมาย จนไปมาหาสู่กันกันจริง แต่งงานกันจริง แต่ละคนมีระยะเวลาไม่นาน ซึ่งตนเอง ไม่มีเจตนาล่อลวงเอาทรัพย์ ตอนคบกันรักกันจริง และยินยอมแต่งงานแค่ 7 ราย ส่วนอีก 7 รายนั้นยอมรับว่าหลอกเอาทรัพย์สิน 

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าที่ผ่านมาได้รักผู้ชายที่แต่งานด้วยหรือไม่ ที่บอกว่ารักทำไมคบซ้อนหลายราย นิยามความรักคืออะไร ผู้ต้องหาถึงกับสีหน้าแดงคล้ายจะร้องไห้และตอบว่าหากผู้ชายไม่โลภคงไม่เป็นแบบนี้  ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวไปให้ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่ออายัดตัวไปเพื่อดำเนินคดี

นอกจากนี้ตำรวจยังคุมตัวนายกิตติศักดิ์ ตันติวิวัฒกุล สามีเก่าที่แต่งงานกับนางสาวจริยาภรณ์ ตั้งแต่ปี 58 มาสอบสวนด้วย โดยพบว่า นายกิตติศักดิ์ก็เป็นหนึ่งในผู้ชายที่ถูกหลอกลวงให้แต่งงาน  ก่อนจะมาทำหน้าที่ขับรถรับส่ง และเพิ่งทราบว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงเมื่อไม่นานมานี้ แต่ที่ยังไม่เลิกลาเนื่องจากมีคดีร่วมกันที่จังหวัดจันทบุรี


ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช ระบุว่าผู้ต้องหายังได้แอบอ้างชื่อ น.ส.สร้อยเพชร พาลีวัลย์ ที่เข้าแสดงความบริสุทธ์ใจเมื่อวานที่ผ่านมาว่า ถูกผู้ต้องหาแอบอ้างชื่อไปเปิดบัญชีตั้งแต่ 6 ปีก่อน พร้อมเร่งติดตามตัวพ่อแม่ผู้ต้องหาที่เชื่อว่ามีส่วนรู้เห็นมาดำเนินคดี 

ขณะที่นายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ พร้อมนายไพรัช พึ่งสุขผู้เสียหายและเป็นอดีตสามีคนที่ 8 มายืนยันรถของกลางหลังถูกผู้ต้องหาอ้างจะนำไปขนผลไม้ก่อนที่จะหายตัวพร้อมรถและไม่สามารถติดต่อได้ จึงเข้าแจ้งความรถไว้แล้วที่ สภ.เมืองระยอง

ทนายสงกรานต์ระบุว่า การให้สินสอดโดยเสน่หา ทางกฏหมายจะต้องดูที่เจตนาเป็นหลัก แต่กรณีที่เกิดขึ้น ผู้ต้องหามีการแต่งงานในบ้านเช่า หลังเดิมห่างกันไม่กี่วัน รวมถึงการแอบอ้างตนเป็นบุคคลอื่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเจตนาไม่บริสุทธิ์ จึงเข้าข่ายฐานฉ้อโกง  และหลังจากนี้จะนำผู้เสียหายและผู้ต้องหาไปยัง สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เพื่อถอนรถยนต์ของกลางออกจากคดี   ส่วนผู้เสียหายรายที่14 ซึ่งเป็นทหารกำลังเดินทางจาก อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มาแจ้งความเอาผิดด้วย

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหา มีหมายจับในพื้นที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จังหวัดปทุมธานี และมีหมายจับค้างเก่าในคดีเกี่ยวกับทรัพย์สินอีก 5 หมาย ในท้องที่ต่างๆ อีกด้วย .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน