ไทยเนื้อหอมต่างชาติสนใจลงทุนเออีซี

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – กระทรวงอุตสาหกรรมระบุไทยเนื้อหอมญี่ปุ่นและหลายชาติสนใจติดต่อเข้ามาลงทุนต่อเนื่อง สัปดาห์หน้า 11-13 ก.ย.เมตินำนักลงทุนญี่ปุ่น 560 ราย ดูลู่ทางลงทุนอีอีซี คาดเริ่มเห็นโครงการลงทุนชัดเจนไตรมาส 3 ส่วน พ.ร.บ.อีอีซี คาดเข้า ครม.ปลายเดือนนี้ 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยหากพิจารณาในแง่ความน่าสนใจเข้ามาลงทุนแล้ว ถือว่าเป็นประเทศที่เนื้อหอม ฉายแววโอกาสสดใสของการเข้ามาลงทุน จากนโยบายประเทศไทย 4.0 และโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยระหว่างวันที่ 11-13 กันยายนนี้ นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (เมติ) ประเทศญี่ปุ่นจะนำคณะผู้ประกอบการญี่ปุ่น 560 ราย พร้อมสื่อมวลชน 40 ราย มาดูลู่ทางลงทุนในไทยโดยเฉพาะโครงการอีอีซี และจะเริ่มเห็นโครงการลงทุนจากญี่ปุ่นชัดเจนไตรมาส 3 ปีนี้

สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ นับเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและญี่ปุ่นในโอกาสเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ครบรอบ 130 ปีอีกด้วย โดยบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาลงทุนในอีอีซีแล้ว เช่น ฮิตาชิ เป็นต้น และขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานอีอีซี จัดทำแผนชัดเจนถึงความสนใจเข้ามาลงทุนโครงการอีอีซีใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นรายประเทศ รายอุตสาหกรรม และรายชื่อบริษัท เพื่อให้ภาคเอกชนไทยทำงานร่วมกับเอกชนญี่ปุ่นสะดวกขึ้น คาดว่าภายใน 3 สัปดาห์นับจากนี้ไปจะเห็นแผนปฎิบัติการที่ชัดเจน ส่วนความพร้อมด้านกฎหมายรองรับโครงการอีอีซีนั้น ร่าง พ.ร.บ.อีอีซี จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปลายเดือนกันยายนนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 


ด้านองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น สำนักงานกรุงเทพฯ หรือเจโทร กรุงเทพฯ มีผลสำรวจนักลงทุนญี่ปุ่นในไทย ระบุชัดเจนว่านักลงทุนญี่ปุ่นมีความสนใจมากต่อโครงการอีอีซี บางส่วนมีแผนงานที่จะขยายการลงทุน ส่วนที่ยังไม่ลงทุนในไทยก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยต่อไป และอยากได้ข้อมูลชัดเจน ซึ่งรัฐบาลไทยมีความชัดเจนเดินหน้าโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลักตามกรอบการลงทุนลักษณะ PPP ปีหน้าจะทราบผู้ที่จะลงทุน 

นายอุตตม กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศการค้า การลงทุนของไทยภาพรวมดีขึ้น สะท้อนจากตัวชี้วัดเศรษฐกิจไทยที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงก่อนหน้านี้ และยังสะท้อนได้จากดัชผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นทางการค้าก็สูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน การเดินทางเข้ามาของคณะนักธุรกิจญี่ปุ่น 560 ราย ถือเป็นกรณีหนึ่งที่สะท้อนความสนใจของนักลงทุนต่อไทย ขณะที่นักลงทุนจากประเทศอื่น ๆ ก็มีคณะเข้ามาหารือและสอบถามการเข้ามาลงทุนในไทยเช่นกัน เป็นภาพสะท้อนความเชื่อมั่นในบรรยากาศการลงทุนของไทยว่าจะดีขึ้น รวมถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่จะตามมา ส่วนเรื่องภาครัฐของไทยนั้น ขณะนี้ไม่เป็นประเด็นอีกต่อไป เนื่องจากมีการเข้ามาติดต่อค้าขายอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าตัวเลขการเข้ามาลงทุนในไทยจะเพิ่มขึ้นแน่นอน  ขอย้ำว่าไทยแววดี ได้รับความสนใจ รวมถึงผู้ประกอบการไทยสนใจอีอีซี หรือลงทุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในพื่้นที่อื่นเพิ่มขึ้นชัดเจน โอกาสการลงทุนทั่วไทยไม่จำกัดอีอีซี เท่านั้น อีอีซีเป็นพื้นที่หนึ่งเท่านั้นที่รัฐบาลให้การสนับสนุนต่อจากอีสเทิร์นซีบอร์ด ปรับระบบเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยมีมูลค่าเพิ่มสูง 


สำหรับการเดินทางมาดูลู่ทางการลงทุนในอีอีซีของนักธุรกิจญี่ปุ่นที่นำโดยรัฐมนตรีเมติวันที่ 11 กันยายนนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะให้เข้าพบเพื่อรับทราบนโยบายรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ นับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสามารถสอบถามนโยบายจากนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง 

ส่วนวันที่ 12 กันยายน จะจัดสัมมนาสร้างความเชื่อมโยงทางธุรกิจ โดยฝ่ายไทยเสนอข้อมูลโอกาสความร่วมมือไทยญี่ปุ่นหัวข้อ  “Symposium on Thailand 4.0 towards Connected Industries” โอกาสนี้ รัฐมนตรีเมตินำเสนอมุมมองความร่วมมือญี่ปุ่นกับไทย โดยนำผลการศึกษามาเสนอ นอกจากนี้ ยังมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่นำสู่กิจกรรมที่เป็นรูปธรรม เช่น ข้อตกลงระหว่าง KINDANREN, JETRO, JICA SMRJ ที่จะนำไปสู่การหารือแนวทางความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน และมีการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ที่มีศักยภาพ 300 ราย กับคณะของนักธุรกิจญี่ปุ่น 5 โซน แบ่งเป็นภาคเอกชน 4 โซนได้แก่ โซน Automobiles โซน Electronics โซน Medical & Agricalture, Biotechnology, Food และโซน Service Industries และโซนภาครัฐที่เกี่ยวข้องก้บการลงทุน 

สำหรับการลงนาม MOU & MOI มีทั้งหมด 7 ฉบับ คือ 1.สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) หอการค้าไทยและสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น (JCCI) 2.สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (สกรศ.) กับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) 3.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมกับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ภายใต้แนวคิด (Flex Campus) 4.นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครกับบริษัท Hitachi 5.กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) 6.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กับ องค์การสนับสนุน SMEs แห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) 7.กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และบริษัท JC Service Co.,Ltd. ส่วนวันสุดท้าย 13 กันยายน คณะนักธุรกิจญี่ปุ่นจะลงพื้นที่อีอีซี โดยรัฐมนตรีเมตินำคณะลงพื้นที่เอง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

สาวใจเด็ด โดดจยย.รับจ้าง วิ่งตามรถตัวเองหลังตามหา 1 ปี

กทม. 18 พ.ค. – สาวใจเด็ด โดดลงจากมอเตอร์ไซค์รับจ้าง วิ่งไล่รถตัวเอง หลังตามหาและผ่อนกุญแจเปล่ามานานกว่า 1 ปี พบเพื่อนสนิทนำรถไปค้ำประกันกับเจ้าหนี้ จากกรณีคลิปที่มีการแชร์ในโซเซียล ขณะผู้หญิงใส่เสื้อลายกำลังวิ่งไล่ตามรถเก๋งสีขาว พร้อมตะโกนให้คนช่วย จนพลเมืองดี ช่วยกันเข้ามารายล้อมรถและคนขับรถเก๋งต้องเลี้ยวเข้าซอย เพื่อลงมาเคลียร์ ก่อนเกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) ล่าสุดทีมข่าวเปิดใจ สาวที่ปรากฏในคลิป เล่าถึงสาเหตุที่ต้องเข้าไปขวางรถยนต์คันนี้ เพราะว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม ปี 2567 ตนเองได้ซื้อรถเก๋งคันนี้ ทะเบียนขอนแก่น และนำรถไปฝากจอดไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ซึ่งเป็นห้องของแฟนเพื่อนสนิท แต่หลังจากที่นำรถไปฝาก ก็ไม่เคยได้พบรถตัวเองอีกเลย โดยเพื่อนสนิท อ้างว่าแฟนเอาไปขับ ทุกครั้งที่ทวงถามหารถ จะมีการบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา จนในที่สุด ตนเองก็เข้าแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ห้วยขวาง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหารถ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ปี ก็ยังตามหาไม่ได้ ตนเองจึงต้องผ่อนกุญแจเปล่า มาเป็นระยะเวลา 1 ปีเต็ม […]

ข่าวแนะนำ

เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมก่อสร้างรถไฟฟ้า ลึกกว่า 10 ม.

กทม. 19 พ.ค. – เร่งช่วยคนพลัดตกหลุมลึกกว่า 10 ม. โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม เกิดเหตุคนพลัดตกลงไปในหลุมซึ่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า ใกล้เคียงซอยหลานหลวง 8 ขนาดความลึกประมาณ 15-19 เมตร ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างช่วยเหลือ โดยโรยตัวลงไปช่วยผู้ติดอยู่ภายในหลุม สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดระหว่างขั้นตอนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่วงที่ดันปลอกเหล็กขึ้นลงเพื่อขุดดินก่อสร้างสถานีหลานหลวง ส่วนสาเหตุที่แน่ชัดต้องตรวจสอบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

คุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ส่งศาลฝากขัง

บางซื่อ 19 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวกรรมการบริษัท ว. และสหายฯ ไปฝากขังศาลอาญาแล้ว พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่วนนิติบุคคลบริษัท ตำรวจปล่อยตัวชั่วคราว ช่วงบ่ายวันนี้ (19 พ.ค.68) พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ควบคุมตัวนายพลเดช กรรมการบริษัท ว. และสหาย คอนซัลแตนส์ จำกัด ขึ้นรถตู้ตำรวจไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บรรยากาศระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวนายพลเดช ออกมาจากห้องสอบสวน บริเวณชั้น 1 ของโรงพัก เจ้าหน้าที่ได้พานายพลเดช เดินขึ้นไปยังชั้น 2 ก่อนจะพาเดินอ้อมไปอีกฝั่งหนึ่งของโรงพัก แล้วพาเดินลงมาขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ โดยระหว่างการควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กังวลหรือไม่เรื่องการยื่นขอประกันตัว และสอบถามอีกว่า ปฏิเสธข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่นายพลเดช ไม่ได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนแต่อย่างใด มีสีหน้าค่อนข้างกังวล ก่อนจะขึ้นรถตู้ของ สน.บางซื่อ ขณะที่นายพฤหัส มหาวรรณ ทนายความ เดินตามมาทีหลัง ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า นายพลเดช ให้การว่าอย่างไรบ้าง ปฏิเสธหรือยอมรับข้อกล่าวหา […]

นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับ ปธน.อินโดนีเซีย

ทำเนียบ 19 พ.ค.- นายกฯ แพทองธาร เปิดทำเนียบต้อนรับประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เดินทางเยือนประเทศไทยในรอบ 20 ปี พร้อมสานต่อความสัมพันธ์ 75 ปี ยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันในทุกมิติ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับ นายปราโบโว ซูบียันโต (H.E. Mr. Prabowo Subianto) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล (Official Visit) ในรอบ 20 ปี ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-อินโดนีเซีย นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และนายกรัฐมนตรี เชิญประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ถ่ายภาพร่วมกัน ณ บันไดโถงกลาง ตึกไทยคู่ฟ้า และประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ลงนามในสมุดเยี่ยมและชมของที่ระลึก ณ ห้องสีงาช้าง (ด้านนอก) ตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสอง หารือข้อราชการเต็มคณะ ภายใต้กลไก Leaders’ Consultation ครั้งแรก […]

สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8%

กรุงเทพฯ 19 พ.ค. – สภาพัฒน์ฯ แถลง GDP ไตรมาส 1/68 โต 3.1% ขณะที่ทั้งปีหั่นเหลือ 1.8% ชี้มองตามสถานการณ์จริงไม่ได้มองในแง่ร้ายเกินไป ลุ้นเงินดิจิทัลเฟส 3 – มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงประชุมวันนี้ พร้อมเตือนผู้ประกอบการฯ เตรียมรองรับความผันผวนทางการค้า ส่วนประชาชนใช้จ่ายให้มีความรอบคอบมากขึ้น นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 1/68 ขยายตัว 3.1% ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.3 ในไตรมาส 4/2567 ปัจจัยหลักมาจากการผลิตภาคเอกชนชะลอลง ขณะที่ภาคเกษตรเร่งขึ้น ด้านการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชน และรัฐบาล การนำเข้าสินค้าและบริการ และการสะสมทุนถาวรเบื้องต้นชะลอลง ขณะที่การส่งออกสินค้าและบริการขยายตัวในเกณฑ์สูง 12.3% โดยเร่งขึ้น 11.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ฯ ได้ปรับคาดการณ์ GDP ปี 68 ลงเหลือเติบโต 1.3-2.3% หรือช่วงกลางของคาดการณ์ที่ 1.8% […]