พะเยา 6 พ.ย.-หนุ่มพะเยาวัย 19 ปี ทำบัตรประชาชนหาย จากนั้นไม่นาน กลับพบว่าตัวเองเป็นหนี้ 600,000 บาท แถมโดนแจ้งความอีก
นางอรัญญา ไชยวุฒิ อายุ 45 ปี แม่ของนายอธิปัตย์ ไชยวุฒิ อายุ 19 ปี ชาวบ้านใน ต.บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา นำหลักฐานซึ่งเป็นทึกประจำวันของสถานีตำรวจภูธรหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ รวมถึงเอกสารหลักฐานหมายเรียก และภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด และเอกสารหลักฐานต่างๆ หลายอย่าง เข้าร้องต่อสื่อมวลชน หลังจากที่นายพชร กุลเศรษฐโสภณ เข้าแจ้งความต่อ สภ.หล่มสัก ให้ดำเนินคดีกับนายอธิปัตย์ บุตรชาย ในข้อหาฉ้อโกงเงินจำนวนกว่า 600,000 บาท
นางอรัญญา ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2559 น้องอธิปัตย์ ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนหาย และได้มีการแจ้งทำบัตรใหม่แล้ว ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา นายพชร พร้อมด้วยตำรวจอีก 2 นาย ได้เดินทางมาพบและบอกว่า นายอธิปัตย์ บุตรชายของตนเองได้ฉ้อโกงเงินไปจำนวนกว่า 600,000 บาท ซึ่งเป็นเงินค่าซื้อขายมะขาม ที่นายพชร โอนเข้าบัญชีธนาคารที่ระบุชื่อของบุตรชายเป็นเจ้าของบัญชี แต่กลับไม่ได้มะขามตามที่ตกลงไว้ และได้เข้าแจ้งความที่ สภ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งตนเองและสามีรวมถึงลูก เมื่อทราบข่าวก็ตกใจอย่างมาก เพราะไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าลูกชายจะทำธุรกิจ เพราะยังเป็นนักศึกษาอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ตนเองและสามีพยายามหาหลักฐานยืนยันกับตำรวจ มีทั้งเอกสารทางราชการที่ลูกชายไปทำหรือติดต่อราชการในช่วงเวลานั้น รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดต่างๆ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
ต่อมาตำรวจก็ได้มีการออกมาเรียกอีกรวม 2 ครั้ง เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อเข้าให้ปากคำพร้อมนำหลักฐานยืนยัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา เวลา 10.30 น. ได้มีการใช้บัตรประชาชนของนายอธิปัตย์ เปิดบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาเด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งหลังจากได้มีการโอนเงิน จำนวนกว่า 600,000 บาท ค่ามะขาม เข้าบัญชีแล้ว จากนั้น เวลา 12.16 น. ก็มีการถอนเงินที่ห้างเทสโก้โลตัส สาขาแพร่ ไปจำนวนกว่า 600,000 บาท ออกไปจากบัญชีจนหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำภาพขณะเข้าไปในธนาคารให้ดูด้วย ซึ่งก็ชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า ไม่ใช่ภาพบุตรชายของตนเอง
ขณะนี้ตำรวจได้ออกหมายจับบุคคลตามภาพแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นบุตรชายของตนเอง ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวบุตรชายไปเข้าให้ปากคำอีกครั้ง ซึ่งตนเองในฐานะผู้เป็นแม่ ก็เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องต่อสื่อมวลชน เพื่อเป็นสื่อกลางในการขอความเป็นธรรมผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบ ให้ลูกชายตนเองด้วย และขอฝากเตือนให้ประชาชนทั่วไปเป็นอุทาหรณ์ ว่าต้องเก็บบัตรประชาชนไว้ให้ดี และเมื่อทำบัตรหายก็ควรจะมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งในการเซฟตี้การนำบัตรไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง หรือก่อให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของบัตร เหมือนลูกชายตนเอง
นอกจากนี้ นางอรัญญา ยังระบุว่า ที่ผ่านมาได้มีการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับลูกนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ด้วย โดยอ้างว่าฉ้อโกงเงินไปราว 400,000 บาท ซึ่งคล้ายๆ กับกรณีของลูกชายตนด้วย.-สำนักข่าวไทย