ศาลปกครองสูงสุดยกคำร้องให้ ขสมก.ยึดหลักประกันเบสท์ริน

กรุงเทพฯ 6 ก.ย. – ศาลปกครองสูงสุดกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้น ยกคำร้อง “เบสท์ริน” ที่ขอคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้ ขสมก.เรียกเงินประกัน 338,971,082  บาท หลังผิดสัญญาส่งมอบรถเมล์เอ็นจีวี 390 คันไม่ได้ 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (6 ก.ย.) ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งในคดีระหว่างองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเบสท์รินฯ ได้ฟ้องระงับการใช้สิทธิ์เรียกร้องเงินประกันโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน โดยศาลปกคองสูงสุดได้กลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นที่กำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา สั่งให้ ขสมก.ระงับการใช้สิทธิ์เรียกร้องเงินประกันจากธนาคารไอซีบีซี(ไทย) จำกัด (มหาชน ) ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาของเบสท์รินกรุ๊ป 338,971,082 บาท  กรณีบริษัทเบสท์รินฯ ถูกกล่าวหาผิดสัญญาการส่งมอบรถยนต์โดยสารปรับอากาศ 390 คันไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น 

โดยศาลปกครองสูงสุดเห็นว่ากรณีการบอกเลิกสัญญาระหว่างเบสท์ริน ฯ กับ ขสมก.ยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงในขั้นนี้ยังไม่อาจรับฟังได้ว่า ขสมก.กระทำผิดสัญญาและเมื่อ ขสมก.บอกเลิกสัญญากับเบสท์รินฯ แล้ว ขสมก.ย่อมมีสิทธิ์ริบหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญาและเรียกให้ธนาคารผู้ค้ำประกันการปฏิบัติงานตามสัญญาของเบสท์รินฯ รับผิดชดใช้เงินตามหนังสือค้ำประกันให้แก่ ขสมก.ได้ เนื่องจากเป็นสิทธิ์ของ ขสมก.ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา และแม้ธนาคารผู้ค้ำประกันจะใช้เงินตามหนังสือค้ำประกันให้แก่ ขสมก.และได้ใช้สิทธิ์ไล่เบี้ยเอาจากเบสท์รินฯ ให้ชดใช้เงินดังกล่าวคืนให้แก่ธนาคารก็ตาม แต่หากต่อมาปรากฎข้อเท็จจริงว่า ขสมก.เป็นฝ่ายผิดสัญญา ศาลย่อมกำหนดคำบังคับใช้ ขสมก.ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เบสท์รินฯ ได้ ความเสียหายของเบสท์รินฯ จึงไม่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง 


นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงยังปรากฎอีกว่าก่อนที่ศาลปกครองชั้นต้นจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาให้แก่เบสท์รินฯ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ธนาคารไอซีบีซี ผู้ค้ำประกันการปฏิบัติตามสัญญาของเบสท์รินฯ ได้ใช้เงินตามหนังสือค้ำประกันให้แก่ ขสมก.ไปแล้ว 338,971,082 บาท กรณีจึงเห็นได้ชัดเจนว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ศาลจะมีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาตามคำขอของบริษัทเบสท์รินฯ ศาลปกครองสูงสุดจึงไม่เห็นพ้องด้วยที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ ขสมก.ระงับการใช้สิทธิ์เรียกร้องเงินประกันการปฏิบัติตามสัญญาจากธนาคารไอซีบีซีไทยตามหนังสือค้ำประกันเลขที่ HOB28301B600284 ลงวันที่ 30 กันยายน 2559 จำนวน 338,971,082 บาท จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น จึงมีคำสั่งกลับคำสั่งศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้ยกคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาในคดีนี้เสีย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม