พังงา 5 ก.ย.-ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่เด็กหญิงผู้เสียหายให้การว่า ถูกนำตัวไปล่วงละเมิดทางเพศบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ จ.พังงา ขณะที่แม่ผู้เสียหายร้องขอคุ้มครองพยาน หลังผู้นำท้องถิ่นบางคนโทรศัพท์ไปข่มขู่
คำบอกเล่าของเด็กหญิงผู้เสียหายวัย 14 ปี ที่ถ่ายทอดต่อหน้ามารดา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว และมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติภูเก็ต ระบุว่านอกจากเธอจะถูกล่วงละเมิดทางเพศภายในบ้านที่อยู่อาศัย แล้วยังถูกนำตัวมาล่วงละเมิดทางเพศยังจุดอื่นๆ ในหมู่บ้านอีก 2 จุดโดยกระท่อม บริเวณหาดหัวท่าแห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกระบุถึง
กระท่อมไม้ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในป่าโกงกาง ตั้งอยู่ติดริมชายหาดบริเวณท่าเรือของหมู่บ้านหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า หาดหัวท่า คือหนึ่งในสถานที่ที่เด็กหญิงผู้เสียหายระบุว่า เธอถูกนำตัวมาข่มขืน กระทำชำเราล่วงละเมิดทางเพศ พร้อมบังคับให้เสพยาเสพติด โดยมีผู้ต้องหาสามคนแรกที่พนักงานอัยการจังหวัดพังงามีคำสั่งฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้เป็นเป็นผู้นำพามาที่นี่
ทีมข่าวได้พบกับนายกีรติ สุเมน หรือนายอ้าหมาด เจ้าของกระท่อม ซึ่งเเขาเปิดเผยกับทีมข่าวว่า รู้ตัวว่าตกเป็น 1 ใน 40 ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ และยอมรับว่ากระท่อมหลังนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่ในการต้มน้ำกระท่อม เป็นแหล่งรวมกลุ่มวัยรุ่นที่มักนัดมาพบปะสังสรรค์กันเป็นประจำ แต่ปฏิเสธว่าไม่ใช่สถานที่ที่ใช้กระทำการล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงคนดังกล่าว เพราะกระท่อมสร้างเมื่อต้นปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังเกิดเหตุการณ์มาแล้ว และเตรียมเข้าแจ้งความกลับกรณีที่แม่ของเด็กหญิงกล่าวหาว่าเขาและพ่อเป็นผู้กระทำความผิดในครั้งนี้ด้วย
นอกจากกระท่อมที่หาดหัวท่าแล้ว บริเวณป่ามะพร้าวหาดโต๊ะหนูแห่งนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งจุดที่เด็กหญิงผู้เสียหายให้การว่า เธอเคยถูกนำตัวมาล่วงละเมิดทางเพศด้วยเช่นกัน
ล่าสุด แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหายเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้กระทำความผิดซึ่งอยู่ในพื้นที่บางคน เริ่มคุกคามเธอและบุตรสาว ด้วยการให้ผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งโทรศัพท์ข่มขู่ และขับรถเข้าไปสังเกตการณ์ยังที่พักของเธอเมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เริ่มรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
ด้าน นายชานนท์ อับดุลล่าห์ ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขาภูเก็ต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่พักเด็ก เพื่อตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว หลังแม่และพ่อของเด็กหญิงจดจำได้อย่างชัดเจน ว่ารถคันดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้กระทำความผิดที่เด็กหญิงผู้เสียหายจดจำใบหน้าและชื่อได้ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้มีการนำตัวเด็กหญิง 1 ใน จำนวน 2 รายที่ถูกระบุว่า โดนกระทำการล่วงละเมิดทางเพศด้วย มาสอบถามข้อมูล โดยเด็กหญิงรายนี้ได้ให้การเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก
ขณะที่พ่อของเด็กหญิงผู้เสียหาย ซึ่งวันนี้เดินทางมาเป็นกำลังใจให้บุตรสาว ในการตอบข้อซักถามต่อหน้าคณะอนุกรรมการสหวิชาชีพจาก 5 หน่วยงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่สำนักงานอัยการจังหวัดพังงา เปิดใจกับสำนักข่าวไทยว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนวิกลจริตตามที่ชาวบ้านกล่าวหา โดยระบุถึงสาเหตุที่บุตรสาวยอมเปิดเผยข้อมูลผ่านทางตนในครั้งแรก เป็นเพราะบุตรสาวมีความไว้เนื้อเชื่อใจ ยืนยันว่าตนเองและภรรยาจะยังคงเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้บุตรสาวอย่างถึงที่สุด
ต้องติดตามต่อไปว่าหลังจากนี้ ตำรวจจะสามารถค้นหาและรวบรวมพยานหลักฐานอื่นๆ ในพื้นที่เกิดเหตุได้นอกเหนือจากคำบอกเล่าของเด็กหญิงผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งหากเวลายิ่งผ่านไปนานเท่าใด พยานหลักฐานที่จะสาวไปถึงตัวผู้กระทำความผิดก็จะยิ่งลำบากและหายากมากขึ้นเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย