กลุ่มผู้เสียหายถูก”น้ำมนต์”หลอกแต่งงานแจ้งกองปราบเอาผิด

กทม.5 ก.ย.- ทนายสงกานต์ พาผู้เสียหาย 13 คนที่ถูก”น้ำมนต์”หลอกแต่งงานและร่วมธุรกิจ แจ้งกองปราบเอาผิด เปิดยอดเสียหายสูงสุด 500,000 บาท


นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อทำลายชาติ พาผู้เสียหาย 13 คน เข้าร้องทุกข์ต่อพันตำรวจเอกสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บังคับการกองปราบปราม หลังถูกนางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หลอกแต่งงาน ก่อนจะเชิดเงินค่าสินสอดหลบหนี มูลค่าความเสียหายคนละประมาณ 100,000-500,000 บาท 


นายไพรัตน์ พึ่งสุข หนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า ส่วนตัวได้ติดต่อพูดคุยกับนางสาวจริยาภรณ์ หรือน้ำมนต์ ซึ่งขณะนั้นอ้างว่าชื่อนางสาวสร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ ได้ 2 เดือน ก่อนจะตกลงแต่งงานกันโดยพ่อแม่ฝ่ายหญิงเรียกเงินสินสอด 280,000 บาท โดยฝ่ายหญิงช่วยเงินสินสอด 100,000 บาท จึงโอนค่าสินสอดไป 180,000 บาท พร้อมพี่สาวได้ร่วมลงทุนวางเงินมัดจำแผงผลไม้ 120,000 บาท เมื่อแต่งงานเสร็จ นางสาวน้ำมนต์ยังนำรถกระบะไปอีกคัน ก่อนจะหายไปไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนตัวอยากได้ทรัพย์สินคืนและขออย่าทำแบบนี้กับคนอื่นอีก 

ขณะที่นายวิพล โพธิ์สุวรรณ ผู้เสียหายอีกคน เปิดเผยว่า รู้จักกับนางสาวจริยาภรณ์ ผ่านทางเฟซบุ๊กมาประมาณ 2 เดือน พูดคุยกันถูกคอ จึงตัดสินใจแต่งงาน โดยยอมรับว่า ต้องการให้นางสาวจริยาภรณ์ มาเป็นภรรยา ซึ่งนางสาวจริยาภรณ์ ยังชักชวนให้ร่วมลงทุนขายผลไม้ ส่วนตัวหลงเชื่อและยอมรับว่า ต้องการร่วมลงทุนเพื่อหวังผลทางธุรกิจจริง

ด้านนายสงกานต์ กล่าวว่า คดีนี้จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า ผู้ก่อเหตุคือนางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ โดยจะอ้างตัวต่อครอบครัวฝ่ายชายว่าครอบครัวมีธุรกิจขายผลไม้ในหลายจังหวัด ต้องการให้ครอบครัวฝ่ายชายมาร่วมลงทุนในธุรกิจ โดใช้เวลาติดต่อพูดคุยแต่ละรายประมาณ 1-2 เดือน ก่อนจะตกลงเรื่องสินสอดและโอนค่าสินสอดให้ฝ่ายหญิงที่ขณะนั้นอ้างตัวว่าชื่อ นางสาวสร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ สาเหตุที่ครอบครัวฝ่ายชายเชื่อ เพราะมักพาบุคคลที่อ้างว่าเป็นพ่อแม่ ซึ่งต่อมาทราบชื่อคือนายบุญเลี้ยง บัวใหญ่ และนางสำรอง บัวใหญ่ ไปด้วยทุกครั้ง ทำให้การติดต่อเจรจาทุกครั้ง ทั้งเรื่องสินสอดและเรื่องธุรกิจน่าเชื่อถือ  ในส่วนของพ่อแม่นางสาวน้ำมนต์ เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเดินทางไปร่วมงานแต่งด้วยทุกครั้ง ซึ่งจะแจ้งความดำเนินคดีกับนางสางจริยาภรณ์ หรือน้ำมนต์,นายบุญเลี้ยง บัวใหญ่, นางสำรอง บัวใหญ่ และเจ้าของบัญชี ชื่อนางสาวสร้อยเพ็ชร พาลีวัลย์ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่นโดยอ้างตนเป็นบุคคลอื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งต้องตรวจสอบอีกว่า นางสาวสร้อยเพ็ชร มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ว่า เป็นการนำเอกสารนางสาวสร้อยเพ็ชร มาเปิดบัญชีโดยแอบอ้าง ก็จะเพิ่มข้อหา ปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพิ่มแก่กลุ่มผู้ต้องหาด้วย  ซึ่งล่าสุดทราบว่ามีผู้เสียหายรายล่าสุดเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด เพิ่มเติมอีกด้วย 


พันตำรวจเอกสุวัฒน์ กล่าวว่า ตำรวจจะสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน  และติดตามหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป สำหรับคดีนี้มูลค่าความเสียหาย คือ ผู้เสียหายคนที่ 1 คุณชาติ ปี 2554 ยังไม่ทราบมูลค่าความเสียหาย ,คนที่ 2 นายมนตรี สว่างกาล  ถูกหลอกไปแต่งงานที่ คาซารูน่าบางพระ จังหวัดชลบุรี ถูกหลอกเอาเงินสินสอด 100,000 บาท และหลอกร่วมทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 400,000 บาท ปี 2555, คนที่ 3 นายประสาน เทียมแย้ม ถูกหลอกเงินค่าสินสอด 400,000 บาท เหตุเกิดช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558, คนที่ 4 นายอนุชิต ประมวล ถูกหลอกแต่งงานที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อ 20 ธันวาคม 2558 สูญเงินสินสอดประมาณ 500,000 บาท, คนที่ 5 นายวิพล โพธิ์สุวรรณ ถูกหลอกแต่งงานที่จังหวัดยโสธร เมื่อปี 2560 สูญสินสอด 600,000 บาท พี่สาวถูกหลอกทำธุรกิจผลไม้ 160,000 บาท} คนที่ 6 นายปรเมศร์ นะโส ถูกหลอกแต่งงานเมื่อมกราคม 2560 สินสอด 200,000 บาท ทองคำน้ำหนัก 1 บาท กรณีนี้เมื่อนายปรเมศร์ ทราบว่านางสาวน้ำมนต์ ไปแต่งงานกับนายวิชิต จึงติดต่อผ่านเฟสบุ๊กเพื่อสอบถามและต่อว่าผ่านทางนางสาวขนิษฐา หอมหวล น้องสาวนายวิชิต  แต่น้ำมนต์ให้เหตุผลว่าที่เลือกนายวิชิตเพราะให้สินสอดมากกว่า, คนที่ 7 นายวิชิต หอมหวล ถูกหลอกแต่งงานที่จังหวัดปทุมธานี สินสอด 400,000 บาท, คนที่ 8 นายไพรัตน์ พึ่งสุข ถูกหลอกแต่งงานที่จังหวัดปทุมธานี บ้านเดียวกับนายวิชิต เสียงเงินสินสอด 180,000 บาท  รถยนต์กระบะ 1 คัน เงินมัดจำค่าแผงขายผลไม้ 120,000 บาท, คนที่ 9 นายพงษ์ธาริน สินธุนาคินทร์ ถูกหลอกสินสอด 100,000 บาท ทองคำหนัก 2 บาท  ถูกหลอกแต่งช่วง สิงหาคมปี 2560 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักมากภาคอีสาน

กทม. 21 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ตะวันออก และใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา […]

มทภ.4 กำชับเร่งสืบจับมือวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี

ปัตตานี 20 มิ.ย. – แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี กำชับเร่งสืบจับผู้ก่อเหตุ เพิ่มความเข้มงวดรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดฯ หลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะ เข้าตรวจสอบความเสียหาย รวมถึงติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดงานกาชาดปัตตานี พร้อมกำชับตำรวจและฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ป้องกันเกิดเหตุซ้ำ และปรับแผนให้รัดกุมยิ่งขึ้น ขณะที่บรรยากาศภายในงานกาชาดปัตตานี หลังเกิดเหตุระเบิด 3 ลูก เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (20 มิ.ย.68) พบว่า เจ้าของร้านต่างเร่งซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาเปิดขายได้อีกครั้ง และพบว่าหลายร้านตัดสินใจไม่ขายต่อ หนึ่งในนั้นคือ ร้านขายไก่ทอด ไก่ย่าง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุดังกล่าว ตัดสินใจเดินทางกลับ จ.ตรัง โดยบอกว่า ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตั้งแต่ขายมา ไม่ว่าจะที่ จ.ยะลา หรือนราธิวาส จึงรู้สึกกลัว แม้อยากทำมาหาเลี้ยงชีพ แต่รักชีวิตมากกว่า. – สำนักข่าวไทย

เขมรป่วน! นำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 20 มิ.ย. – กัมพูชาป่วนไม่เลิก ล่าสุดนำมวลชน-พระสงฆ์ บุกปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ไล่นักท่องเที่ยวชาวไทยกลับ ทหารและฝ่ายปกครองต้องเตือนให้หยุด และให้กลับลงไปทันที นี่เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองของไทย เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาและพระสงฆ์กัมพูชา ประมาณ 15 รูป ซึ่งตอนแรกทำทีเป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในเวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.68) แต่ต่อมากลับพากันมายืนที่จุดจีพีเอส ขวางประตูทางเข้าตัวปราสาทตาเมือนธม และพูดกับคนไทยที่มาเที่ยวชมปราสาท ในลักษณะจะไม่ให้เข้า และข้ามหลักจีพีเอสไป ทั้งที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของไทยทั้งหมด ขณะนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง อ.พนมดงรัก ที่ปฏิบัติการที่ปราสาทตาเมือนธม เห็นเข้า จึงรีบเข้าไปแจ้งเตือนและให้หยุดการกระทำดังกล่าวทันที โดยมีทหารฝ่ายกัมพูชาเข้ามาร่วมชี้แจงด้วย ก่อนจะพาชายคนดังกล่าวพร้อมคณะกลับลงไปฝั่งกัมพูชาทันที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกัมพูชาใช้ฐานปฏิบัติการทหารที่อยู่ตรงข้ามกับปราสาทตาเมือนธม เป็นจุดรวมผู้คนและพระสงฆ์ที่เกณฑ์มา ให้มารวมตัวกัน โดยทหารกัมพูชาที่มาอำนวยความสะดวกบริเวณปราสาทตาเมือนธม จะเป็นผู้รายงานว่า ฝั่งไทยมีความเคลื่อนไหวอย่างไร นักท่องเที่ยวชาวไทยขึ้นมาเยอะหรือไม่ จากนั้นก็จะแจ้งให้ทางกัมพูชาทราบและจัดคนขึ้นมาที่ตัวปราสาท แล้วก็มาป่วน พยายามสร้างกระแสยั่วยุฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ทบ.แจงเหตุมวลชนเขมรบุกร้องเพลงบนปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ การยั่วยุลักษณะนี้เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา […]

ไมค์โขกหัวนายกฯ

นายกฯ โพสต์แจง “ไมค์โขกศีรษะ” นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- นายกฯ อิ๊งค์ แจงไมค์โขกศีรษะ นักข่าวไม่ได้ตั้งใจ บอกหน้างานเบียดกันมาก โดนไม่แรง พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านสตอรี่ไอจี กรณีมีไมค์ของสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งโดนศรีษะของนายกรัฐมนตรี ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และนายกรัฐมนตรีได้อุทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า วันนี้ที่มีข่าวเรื่องไมโครโฟนโขกศีรษะ