สสจ.สระแก้วสั่งสอบข้อเท็จจริงผู้ป่วยวิกฤติเสียชีวิต

สระแก้ว 3 ก.ย.- นพ.สสจ.สระแก้วให้ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชตั้งชุดสอบข้อเท็จจริงกรณีญาติกังขาในการดูแลรักษาจนผู้ป่วยวิกฤติเสียชีวิต เตรียมส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าพูดคุยกับญาติ เพื่อหาข้อมูลและทำความเข้าใจ


กรณีสามีและญาติมีข้อกังขาในการเสียชีวิตของภรรยา อายุ 32 ปี จากการรักษาของแพทย์ในจังหวัดสระแก้ว และร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับสื่อในพื้นที่เพื่อขอให้หน่วยงานช่วยตรวจสอบ โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ภรรยาได้เข้าโรงพยาบาลคลองหาดรักษาอาการเวียนศีรษะและแน่นหน้าอกมาก หลังตรวจเช็คแพทย์ได้ให้ออกซิเจนและตรวจร่างกายอีกหลายอย่าง ก่อนจะบอกกับญาติว่าเบาหวานขึ้นสูงกว่า 200 จากเดิมที่ไม่เคยตรวจพบว่าเป็นเบาหวาน แพทย์จึงให้นอนพักฟื้นกินยาจนเบาหวานลดลง โดยยังให้ออกซิเจนและน้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อและให้กินยาตามเวลา 

สามีผู้เสียชีวิต เล่าด้วยว่า หลังจากนอนโรงพยาบาลคลองหาดได้ 4 วัน อาการไม่ดีขึ้น แพทย์จึงทำเรื่องส่งตัวไปรักษาต่อในโรงพยาบาลใหญ่ในจังหวัดสระแก้ว เมื่อเที่ยงวันที่ 1 ก.ย. อยู่ในห้องฉุกเฉิน พร้อมสายน้ำเกลือและเครื่องช่วยหายใจ ขณะนั้นมีผู้ป่วยอยู่ประมาณ 5-6 คน และพยาบาลอีกหลายคนในห้อง แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแลหรือดำเนินการรักษาใด ๆ ทั้งที่เป็นผู้ป่วยหนักกระทั่งน้ำเกลือหมดขวดและเลือดไหลย้อนกลับเข้าเส้นเลือด จากนั้นก็ช็อคเสียชีวิตในช่วงเช้าของอีกวัน ขณะนี้ศพของภรรยาตั้งอยู่ที่วัดบ้านพัฒนา ม.10 ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว 


ล่าสุด นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า ได้ประสานกับ นพ.สวรรค์ ขวัญใจพานิช  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว และกำชับให้ตั้งคณะทำงานสอบสวนในข้อเท็จจริง รวมทั้งให้ส่งทีมสอบสวนลงพื้นที่เพื่อเข้าพบกับญาติของผู้เสียชีวิตในการหาข้อมูลว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด รวมถึงขั้นตอนการดูแลรักษาผู้ป่วย เบื้องต้นทราบว่าผู้ป่วยรายนี้มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตอยู่แล้ว  แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องทำให้เรื่องนี้กระจ่าง และวันพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) จะมีการพูดคุยกับทางโรงพยาบาลอีกครั้ง

นพ.อภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า ได้ให้ตรวจสอบกระบวนการตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่ผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาที่ รพ.คลองหาด ก่อนถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วและเสียชีวิต เมื่อทราบทั้งกระบวนการก็จะสามารถมาดำเนินการในขั้นตอนอื่น ๆ ต่อไปได้ เช่น การเยียวยา และอาจต้องมีการวางแนวทางให้ชัดเจนในการดูแลผู้ป่วยจะได้ไม่เกิดปัญหาขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง