ศาลฎีกายืนยกฟ้อง “อภิสิทธิ์-สุเทพ” สลายม็อบปี 53

กรุงเทพฯ 31 ส.ค.- ศาลฎีกายืนยกฟ้อง “อภิสิทธิ์-สุเทพ” สั่งสลายการชุมนุมปี 53 ชี้ไม่อยู่ในอำนาจศาลอาญา


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางมาฟังคำสั่งศาลฎีกา คดีสลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 ฐานร่วมกันก่อให้เกิดการฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น ตามที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งฟ้อง

โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกฟ้องไม่รับสำนวนไว้พิจารณา เนื่องจากเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการยื่นฟ้องกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมพร้อมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า คดีเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ที่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหารที่เข้ากระชับและขอคืนพื้นที่โดยใช้กระสุนปืนจริง ซึ่งเป็นคำสั่งของนายสุเทพ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น 

ศาลได้นำมติของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่มีความเห็นไม่สั่งฟ้องคดีนี้เมื่อปี 2558 มาพิจารณาร่วมด้วย 


ศาลฎีกาพิจารณาแล้วพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ เนื่องจากเห็นว่า คดีนี้ต้องให้สำนักงาน ป.ป.ช.ไต่สวนและยื่นฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไม่ใช่ของดีเอสไอ ทำสำนวนส่งอัยการ ฟ้องศาลอาญา เนื่องจากคดีมีความเกี่ยวข้องกับนักการเมือง คดีนี้จึงสิ้นสุด

ขณะที่นายสุเทพ เปิดเผยว่า หากสำนักงาน ป.ป.ช.จะยื่นฟ้องใหม่ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็พร้อมต่อสู้คดี ซึ่งที่ผ่านมาได้เขียนหนังสือชื่อว่า “คำให้การ” ที่รวบรวมพยานหลักฐานและขั้นตอนการปฏิบัติของตัวเองอย่างละเอียด ระหว่างที่สลายการชุมนุมไว้ทั้งหมด และจะสามารถนำไปชี้แจงต่อศาลได้

ส่วนความแตกต่างคดีนี้กับคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551 คือ การออกคำสั่งสลายการชุมนุมเป็นการออกภายใต้การประกาศพระราชกำหนดการบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย และในการออกคำสั่งมีคณะกรรมการรับรองมติ ส่วนการสั่งให้ใช้แก๊สน้ำตาได้เปลี่ยนเป็นแบบขว้างแทนแบบยิงด้วยปืน เพื่อลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง