กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – คมนาคมตีกลับแผนฟื้นฟู ขสมก. สั่งกลับไปทำแผนใหม่ภายใน 2 เดือน หลังแนวทางแก้ไขหนี้กว่าแสนล้านบาทยังไม่ชัดเจนและการหยุดปัญหาขาดทุนในอนาคต ขณะที่การจัดหารถใหม่ ขสมก.ยืนยันจะได้รถเมล์เอ็นจีวีบางส่วนปีนี้
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้จากการหารือผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรมการขนส่งทางบกและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สำนักงบประมาณ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ถึงแนวทางฟื้นฟูกิจการ ขสมก. โดยเฉพาะแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินในอดีตที่มีกว่า 103,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 3 แนวทาง ประกอบการ ภาครัฐรับภาระหนี้ทั้งหมด ภาครัฐรับภาระบางส่วนโดยเฉพาะภาระหนี้เกี่ยวกับการให้บริการเพื่อสังคมในช่วงที่ผ่านมา และชดเชยโดยพิจารณาจากต้นทุนจริงที่ ขสมก.ดำเนินการหากเก็บค่าโดยสารปกตินำมาหักกับการดำเนินการเก็บค่าโดยสารจากการรับภาระบริการให้แก่ประชาชนตามนโยบายรัฐ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาแผนดังกล่าวยังมีความไม่ชัดเจนหลายประเด็น จึงขอให้ ขสมก.กลับไปทำแผนและเสนอใหม่อีกครั้งภายใน 2 เดือนข้างหน้า ใน 3 ประเด็นหลัก คือ 1.ปัญหาการขาดทุนว่าหากในอนาคตดำเนินการตามแผนฟื้นฟูและยุทธศาสตร์ ขสมก.ที่จะต้องสอดคล้องกันจะหยุดปัญหาขาดทุนหรือเลือดไหลได้อย่างไร 2.ขอให้ ขสมก.ไปจัดทำต้นทุนมาตรฐาน ที่ผ่านมาว่าจ้างจุฬามหาวิทยาลัยศึกษาต้นทุนแท้จริง ส่วนกรมการขนส่งทางบกว่าจ้างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำการศึกษาเช่นกัน สามารถทำผลศึกษาทั้ง 2 สถาบันมาเปรียบเทียบ เพื่อให้ทราบต้นทุนมาตรฐานและนำมาวิเคราะห์ว่าต้นทุน ขสมก.ในอดีต ซึ่งกระทรวงคมนาคมเห็นว่าตัวเลขที่นำมาแจกแจงสูงเกินไป รวมทั้งจะได้ทราบต้นทุนในอนาคต เพื่อนำมาพิจารณาว่าหากรัฐชดเชยเพื่อให้บริการแก่ประชาชนจะต้องชดเชยปีละเท่าใด และ 3.แนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในอนาคตที่จะมีความชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาหนี้สินและขาดทุนรวมทั้งความโปร่งใสในองค์กรสอดคล้องแผนยุทธศาสตร์จะต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มบ้าง ซึ่งทั้งหมดขอให้ ขสมก.สรุปและรายงานให้ทราบอีกครั้ง
ส่วนการจัดหารถเมล์ใหม่ จากแผนเดิม ขสมก.มีแผนจัดหาและปรับปรุงรถเก่ากว่า 3,000 คันนั้น วันนี้ได้ให้ฝ่ายบริหารกลับไปจัดทำแผนจัดหารถใหม่เข้ามารายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบ ส่วนรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ที่ล้มการประมูลเนื่องจากไม่มีผู้ยื่นซองประกวดราคา ผู้บริหาร ขสมก.รายงานว่าภายในปีนี้จะยังเดินหน้าจัดหารถใหม่ได้บางส่วนก่อนปี 2561 และหลังจากปีใหม่ 1-2 เดือนจะได้รถเมล์เอ็นจีวีครบ 489 คัน โดยกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาว่าหากดำเนินการตามปกติท้ายสุดจะสามารถซื้อรถตามเป้าหมายหรือไม่ หรือจะต้องมีวิธีพิเศษเพิ่มในอนาคต.-สำนักข่าวไทย