เชียงราย 26 ส.ค.-การทำเกษตรแบบพอเพียงเพื่อสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ไม่ได้จำกัดแต่เพียงเกษตรกรเท่านั้น อย่างทหารค่ายเม็งรายมหาราชที่เชียงราย ซึ่งปลูกผักแบบอินทรีย์ รวมทั้งเลี้ยงสัตว์ ไว้เป็นอาหารจำหน่ายให้กำลังพลและครอบครัว รวมไปถึงประชาชนผู้สนใจ ในราคาถูก ที่สำคัญยังกลายเป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรแบบพอเพียงให้กำลังพลและผู้สนใจด้วย
พืชผักสวนครัวและสมุนไพรมากมายหลายสิบชนิด ที่ปลูกไว้ในสวนขนาดย่อมๆ รวมไปถึงการเลี้ยงสัตว์ทั้งกบ ไก่ เป็ด ห่าน รวมไปถึงแพะ กลายเป็นฟาร์มเกษตรและปศุสัตว์ ใช้พื้นที่ 10 ไร่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ได้เป็นของเกษตรกรตัวอย่างคนไหน แต่ทั้งหมดอยู่ในมณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช ที่เชียงราย ซึ่งเริ่มโครงการนี้มาได้ 2 ปีแล้ว
พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 นายพลหัวใจเกษตร ซึ่งเริ่มการปลูกผักในค่ายมาตั้งแต่สมัยเป็นเสนาธิการที่นี่ จากที่เคยถวายงานโครงการพระราชดำริ ในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จึงซึบซับการพัฒนาการเกษตรและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จนมาทดลองทำด้วยตัวเอง
จากแปลงปลูกผักบุ้งหน้าบ้านพัก จึงขยับขยายขอใช้พื้นที่ว่างเปล่าในค่ายทหาร ค่อยๆ ทดลองปลูกพืชผักสวนครัวนานาชนิดที่ต้องกินต้องใช้ ให้กำลังพลทหารที่ว่างเว้นจากปฏิบัติภารกิจมาช่วยกันทำสวนเกษตร เน้นการปลูกแบบอินทรีย์ ไม่ใช้สารเคมี แม้แต่การรดน้ำยังประหยัดพลังงาน ใช้จักรยานเก่ามาดัดแปลงปั่นเพื่อสูบน้ำมารดแปลงผัก 2 ปีผ่านไป สวนผักในค่ายเติบโต ขึ้นมีผลผลิตเพียงพอขายให้โรงครัวในค่ายและครอบครัวกำลังพลในราคาถูก เพื่อลดรายจ่าย อย่างผักบุ้งขายเพียงกิโลกรัมละ 10 บาท ส่วนประชาชนทั่วไปขายให้กิโลกรัมละ 15 บาท ผักอีกส่วนหนึ่งปรุงอาหารจำหน่ายให้ประชาชนในราคาประหยัด ที่สำคัญกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ของพลทหารที่ปลดประจำการออกไปหลายคนนำไปเป็นอาชีพได้
สิ่งที่กำลังพลทหารโครงการปลูกผักในค่ายปลาบปลื้มที่สุด เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ทอดพระเนตรโครงการนี้ถึง 2 ครั้ง และทรงแนะนำจนขยายไปถึง 17 โครงการ และค่ายเม็งรายมหาราชได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนกองทัพบกเข้าประกวดค่ายปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในระดับประเทศ หลังพิสูจน์ความสำเร็จการทำเกษตรและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรับใช้ได้ทุกสาขาอาชีพ.-สำนักข่าวไทย