เขตพญาไท 25 ส.ค.-พล.อ.ประวิตร สั่งฝ่ายความมั่งคงตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตามกระแสข่าว เผยยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด หากพบใครอยู่เบื้องหลังดำเนินการตามกฎหมาย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหลบหนีออกนอกประเทศ ไปตั้งแต่คืนวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีรถของราชการระดับสูงพาหลบหนีไปตามเส้นทางเกาะช้าง เข้าประเทศกัมพูชา มีปลายทางอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า ตนไม่ทราบ เพราะติดภารกิจการประชุม ได้แต่ติดตามข่าวจากสื่อออนไลน์ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลบหนีไปแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าหนีไปแล้วจริงๆ เพราะมีเส้นทางการกลบหนีหลายเส้นทาง โดยก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันผ่านสื่อมาโดยตลอดว่า จะไม่หลบหนี ยอมรับฝ่ายความมั่นคงก็ไม่คาดคิดว่าจะหลบหนี พร้อมยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ หรือ เปิดช่องทางให้มีการหลบหนี
พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ฝ่ายความมั่นคงมีการติดตามและดูแลตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด พร้อมตรวจสอบว่าใช้เส้นทางใดในการหลบหนี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าหลบหนีไปเส้นทางใดมีแต่กระแสข่าวว่าใช้เส้นทางเกาะช้างหลบหนี ส่วนกรณีที่มีการข่าวว่า มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พา น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนี หากรู้ว่าเป็นใคร ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย และหากเป็นข้าราชการทหารก็ต้องสั่งปลดออกจากตำแหน่งทันที
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีการเตรียมการหลบหนีไว้ล่วงหน้าหรือไม่ เพราะมีการเผยแพร่ภาพที่มีการทำบุญผ่านโลกโซเชียลก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า มีการเตรียมการล่วงหน้าหรือไม่ ซึ่งนับจากนี้ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนจะมีการตั้งทีมติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่นั้น ตนยังไม่ทราบ อีกทั้งศาลยังไม่มีการพิพากษาคำตัดสินเป็นที่สิ้นสุด หากจะตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ คงตามในเฉพาะคดีที่ศาลออกหมายจับเท่านั้น ยอมรับว่า ฝ่ายความมั่นคงได้มีการติดตามความเคลื่อนไหว น.ส.ยิ่งลักษณ์ พบว่าไม่ได้ออกจากบ้านมา 2 วันแล้ว
ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า วันนี้จะไม่เดินทางมาศาลนั้น พล.อ.ประวิตรระบุว่าไม่ทราบ สื่อมวลชนคิดไปเองทั้งนั้น ทั้งนี้การวางแผนหลบหนี จะวางแผนด้วยตัวเอง หรือมีคนวางแผนให้นั้น ตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ใช่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวแล้ว แต่ยังไม่มีการสั่งการแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย