แอนนา รีส เข้ารายงานตัวกรมคุมประพฤติ

ศูนย์ราชการฯ 24 ส.ค.-‘แอนนา รีส’ นักแสดง เข้ารายงานตัวคดีเมาแล้วขับ เตรียมทำกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง


น.ส.แอนนา แฮมบาวรีส หรือ “แอนนา รีส” ดาราสาว เดินทางเข้ารายงานตัว เพื่อรับทราบเงื่อนไขการคุมประพฤติ ในฐานความผิดขับขี่รถในขณะมึนเมาสุรา หลังศาลแขวงพระนครเหนือ มีคำพิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 3 ปี และกำหนดเงื่อนไขการคุมความประพฤติ รวมทั้งพักใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 2 ปี ต่อ  พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ  ที่กรมคุมประพฤติ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ในช่วงสายวันนี้ (24 ส.ค.) 


น.ส.แอนนา  กล่าวว่า  วันนี้มารายงานตัวตามที่ศาลมีคำสั่ง และรับทราบเงื่อนไข แนวทางในการทำงานบริการสังคม โดยจะต้องมารายงานตัวรวม 4 ครั้งในช่วงที่ถูกคุมประพฤติ 1 ปี ส่วนงานบริการสังคม ส่วนตัวตั้งใจจะไปสมัครเป็นอาสาสมัครกู้ภัยกับมูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊ง แต่ต้องขอเข้าไปคุยกับมูลนิธิฯก่อนว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง หรือมีอะไรที่จะทำได้มากกว่าอาสากู้ภัยหรือไม่  

นอกจากนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้รับบทเรียนสำคัญกับชีวิต รวมทั้งยังส่งผลกับทั้งภาพลักษณ์ และอนาคตของตนอย่างเลี่ยงไม่ได้ หลังจากนี้คงจะต้องอะเอียด รอบคอบกับการใช้ชีวิตให้มากขึ้น เพราะว่าผิดซ้ำมาแล้วถึง 2 ครั้ง  


ถามว่าตอนนี้ยังดื่มอยู่ไหม ยอมรับว่ายังดื่มอยู่แต่จะดื่มเฉพาะตอนอยู่ที่บ้านเพื่อความผ่อนคลายเท่านั้น หากใครจะชวนออกไปดื่มสังสรรค์ที่ร้านคงจะไม่ทำอีกแล้ว เพราะอันตราย และสุ่มเสี่ยงผิดเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติด้วย

ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์  กล่าวถึงการคุมประพฤติของ แอนนา รีส ว่า เงื่อนไขการคุมประพฤติ จะต้องมารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ จำนวน 4 ครั้งในระยะเวลา 1 ปี และทำงานบริการสังคม จำนวน 36 ชั่วโมง และอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและความปลอดภัยบนท้องถนน รวมถึงผลกระทบและการป้องกันอุบัติเหตุจากเมาแล้วขับ เป็นจำนวน  4 ครั้ง ที่ผ่านมานางสาวแอนนา เคยก่อเหตุขับรถชนคนตายเมื่อปี 2558 ศาลตัดสินจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ จำนวน 4 ครั้ง กำหนด 1 ปี และทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง ซึ่งพ้นการคุมความประพฤติด้วยดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย