กรุงเทพฯ 23 ส.ค. – ก.อุตฯ เปิดศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี เร่งช่วยเหลือเอสเอ็มอีเดินหน้าสู่ไทยแลนด์ 4.0
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับหลายหน่วยงานก่อตั้ง “ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี (SME Support & Rescue Center)” ขึ้นด้วยความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายสถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษาทั้งในส่วนกลาง และภูมิภาค เพื่อปฏิรูปการสนับสนุน SME และเศรษฐกิจท้องถิ่น ตามแนวประชารัฐ โดย “ศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี” มีบทบาทเป็นเสมือนหน่วยกลางที่มีหน้าที่รับคำร้องของผู้ประกอบการ SME เพื่อประสานความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการเงินกว่า 28 หน่วยงานประกอบด้วย
1. กระทรวงมหาดไทย 2. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 3. กระทรวงสาธารณสุข 4. สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 5. กรมบังคับคดี 6. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า 7. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 8. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9. หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 10. สมาคมธนาคารไทย 11. สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย 12. ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย 13. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 14. ธนาคารออมสิน 15. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 16. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 17. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 18. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 19. ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 20. ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 21. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 22. ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 23. ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย 24. ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) 25. ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 26. ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 27. บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม 28. บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด
โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือทั้งด้านการพัฒนาและด้านการเงิน พร้อมวิเคราะห์กลั่นกรองคำขอรับบริการเพื่อการส่งต่อบริการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกองทุนต่างๆ โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายให้ความช่วยเหลือออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1 ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ แต่มีปัญหาด้านการเงิน หากเป็นหนี้ปกติจะส่งต่อให้สถาบันการเงินช่วยเหลือในการให้สินเชื่อ แต่หากเป็นรายที่สถาบันการเงินปกติไม่สามารถช่วยเหลือได้ ภาครัฐจะเข้ามาสนับสนุนเงินทุน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านการปรับโครงสร้างหนี้ กลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่มีศักยภาพแต่มีปัญหาด้านการจัดการ ซึ่งจะส่งต่อไปยังหน่วยงานเครือข่าย เพื่อช่วยในการวางแผนและการบริหารจัดการธุรกิจ และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มที่มีศักยภาพในการฟื้นฟูไม่มาก ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยแนะนำการปรับโครงสร้างธุรกิจ และหากจำเป็นต้องเลิกกิจการจะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการให้ไปสู่ธุรกิจใหม่ที่มีโอกาสทางการตลาดมากกว่าต่อไป
โดยขั้นตอนการทำงานจะมีหน้าที่รับคำขอความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาทางธุรกิจในด้านการเงินและด้านต่าง ๆ ช่วยวิเคราะห์กลั่นกรองคำขอรับบริการเพื่อส่งต่อบริการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกองทุนต่างๆ ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาแนะนำเชิงลึกและวินิจฉัยปัญหา ประสานส่งต่อ SME ไปยังหน่วยบริการที่อยู่ในเครือข่ายเพื่อช่วยเหลือในด้านการพัฒนาและด้านการเงิน บริหารและจัดการข้อมูลผู้รับบริการพร้อมติดตามผลผู้รับบริการของศูนย์ ทั้งนี้เพื่อให้ SME ทุกระดับทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการทั้งในด้านการเงินและด้านอื่น ๆ ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง สะดวก ครอบคลุมทุกจังหวัด ทั่วประเทศ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้ยกระดับศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดขึ้นเป็นศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอีประจำจังหวัด เพื่อความคล่องตัวและสอดคล้องกับความต้องการของ SME ในพื้นที่อย่างแท้จริง – สำนักข่าวไทย