“พล.ร.อ.ณรงค์” ตรวจความพร้อมโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่

สระบุรี 23 ส.ค.- รองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่สระบุรีตรวจความพร้อมโรงงานผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก เพื่อขึ้นทะเบียนและผลิตวัคซีนภายในปี 62  ด้าน ผอ.องค์การเภสัชกรรม เผยหากมีการระบาดของโรคระหว่างนี้ ยังมีโรงงานต้นแบบผลิตวัคซีนได้ทันทีควบคุมสถานการณ์


วันนี้ (23 ส.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์  พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทดสอบระบบการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัด ขององค์การเภสัชกรรม ที่ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยมี นพ.นพพร  ชื่นกลิ่น ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และนายบัณฑิตย์  เทวีทิวารักษ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี รายงานความคืบหน้า

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนก  ประกอบด้วยงานหลัก 2 ด้าน คือ ด้านพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน และด้านก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีน โดยให้ดำเนินการคู่ขนานสอดคล้องกันไป ในส่วนการก่อสร้างโรงงานได้รับอนุมัติงบประมาณ 1,411.7 ล้านบาท สร้างโรงงานอุตสาหกรรมมาตรฐาน WHO GMP  ที่ตำบลทับกวาง ขณะนี้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วอยู่ระหว่างการสอบคุณภาพ (Qualiflcation) รวมถึงเครื่องจักรและเครื่องมือสำคัญ ขั้นตอนต่อไปเป็นการสอนระบบต่าง ๆ อย่างเต็มรูปแบบทั้งระบบห้องผลิตและสนับสนุนการผลิตให้การทำงานประสานกันตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ได้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดมาตรฐาน และนำไปทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 เพื่อเป็นข้อมูลขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เมื่อโรงงานได้รับการตรวจรับรองมาตรฐานการผลิตที่ดี GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งรัดแล้ว คาดว่าในปี 2562 จะสามารถผลิตวัคซีนกระจายสู่ระบบสาธารณสุขระดับประเทศได้


ด้าน นพ.นพพร  กล่าวว่า  โรงงานแห่งนี้จะมีศักยภาพในการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล (Seasonal Influenza Vaccine) เริ่มต้นปีละ 2 ล้านโด้สและสามารถขยายกำลังได้ถึง 10 ล้านโด้ส และในกรณีเกิดการระบาดใหญ่ สามารถขยายกำลังการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ (Pandemic Influenza vaccine) ได้ปริมาณเพียงพอต่อการใช้ของประชากรในประเทศ และภูมิภาคอาเซียนด้วย ระหว่างนี้หากเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่/ไข้หวัดนกในประเทศ โรงงานต้นแบบที่มหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม และองค์การฯ  มีใบอนุญาตผลิตวัคซีนชนิดเชื้อเป็นเพื่อใช้ในการระบาดที่โรงงานต้นแบบนี้แล้ว  ซึ่งถ้ามีเหตุฉุกเฉินขึ้นจริง ๆ  องค์การฯ จะใช้โรงงานต้นแบบที่มหาวิทยาลัยศิลปากรผลิตวัคซีนชนิดเชื้อเป็นเพื่อใช้ควบคุมสถานการณ์ได้ แต่กำลังการผลิตไม่สูงมากนักประมาณ 2 แสนโด้สต่อเดือน อาจต้องพิจารณาให้กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงได้รับวัคซีนในช่วงแรก ๆ ก่อน ดังนั้น จึงเห็นว่าการเร่งรัดให้โรงงานวัคซีนที่สระบุรีนี้ความพร้อมในการผลิตวัคซีนให้ได้โดยเร็วที่สุดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตสูงในระดับอุตสาหกรรม ซึ่งจะสามารถผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคได้ในวงกว้าง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง