กรุงเทพฯ 23 ส.ค. – ฝ่ายบริหาร ขสมก.แจงการยกเลิกแบล็คลิสต์เบสท์รินในโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี เป็นไปตามความเห็นของฝ่ายกฎหมายกระทรวงคมนาคม ขณะที่ยอมรับการประมูลรอบใหม่อาจล้มอีกรอบ หลังมีรายงานข่าวระบุเอกชน 2 รายซื้อซองอาจไม่ยื่นเสนอราคาจากปัญหาราคากลางต่ำเกินไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับปัญหาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ซึ่งกำลังเดินหน้าประมูบรอบใหม่ หลังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ยกเลิกสัญญากับเอกชนที่ชนะการประมูลครั้งที่ผ่านมา สำหรับปัญหาครั้งที่แล้วรายงานจากฝ่ายบริหาร ขสมก.ระบุว่าเมื่อยกเลิกสัญญาตามมติคณะกรรมการ ขสมก. การดำเนินการทุกอย่างถือว่าสิ้นสุด และ ขสมก.ไม่รับมอบรถหรือทรัพย์สินใด ๆ จากบริษัท เบสท์ริน
ส่วนการดำเนินการประมูลรอบใหม่นี้ ปัญหาที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การปลดล็อคแบล็คลิสต์เบสท์ริน สามารถซื้อซองประกวดราคาได้ในฐานะเป็นผู้ทิ้งงานไม่สามารถส่งมอบรถได้ในการประมูลครั้งที่แล้วนั้นฝ่ายบริหาร ขสมก.ชี้แจงว่าการยกเลิกดังกล่าวมาจากสาเหตุเมื่อคณะกรรมการชุดที่ผ่านมาทำหนังสือรายงานไปที่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง เพื่อแจ้งแบล็คลิสต์บริษัทดังกล่าว ฝ่ายกฎหมายกระทรวงคมนาคมได้ทำข้อโต้แย้งว่ากระบวนการดำเนินการตามกฎหมายยังไม่ครบ เนื่องจากยังไม่ได้มีการเรียกผู้บริหารเบสท์รินมาทำข้อโต้แย้ง และชี้แจงสาเหตุไม่ส่งมอบรถตามสัญญา จึงยังไม่สามารถประสานไปกระทรวงการคลัง เพื่อประกาศแบล็คลิสต์บริษัทดังกล่าว ซึ่งจะมีผลทำให้บริษัทนั้นไม่สามารถประมูลงานหน่วยงานภาครัฐได้อีก ดังนั้น เมื่อความเห็นฝ่ายกฎหมายกระทรวงคมนาคมแจ้งมาดังนี้ คณะกรรมการ ขสมก.จึงต้องยกเลิกมติการทำแบล็คลิสต์เดิม เพื่อดำเนินการให้ครบตามขั้นตอนของกฎหมายและเมื่อเสร็จก็จะมีการนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังทำแบล็คลิสต์ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้าประมูลรถเมล์เอ็นจีวี ล่าสุดวันนี้รายงานระบุว่าการประมูลรอบนี้อาจต้องล้มเลิกไป เนื่องจากเอกชนที่ซื้อซองประมูล 3 ราย ในจำนวนนี้นอกจากเบสท์ริน 2 บริษัทที่เหลือ ไทย เทคโนโลยี แอนด์ เดเวลอปเมนท์ และกิจการร่วมค้า JVCC เห็นว่าราคากลางที่ใช้อ้างอิงราคาชนะประมูลของเบสท์รินต่ำกว่าราคากลางครั้งที่แล้วมาจากการตัดราคาลงถึงร้อยละ 40 เป็นราคาที่ไม่สามารถดำเนินการจัดหารถได้จริง จึงทำให้ตัดสินใจจะไม่เข้ายื่นซองเสนอราคาครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย