พม.22 ส.ค.-ปลัด พม.กำชับเจ้าหน้าที่เร่งเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่ถูกครูสอนดนตรี ล่วงละเมิดทางเพศ ที่ จ.เชียงใหม่ และช่วยเหลือครอบครัวหญิงรายหนึ่งที่ต้องลาออกจากงานเพื่อดูแลคนในครอบครัวที่พิการ ที่ จ.นราธิวาส พร้อมชื่นชมสามี-ภรรยา พิการตาบอด แต่สู้ชีวิต ที่ จ.ลำปาง
นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า ในที่ประชุม ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 696/2557-2560 วันนี้ (22 ส.ค.) นายไมตรี อินทุสุต ปลัด พม.ได้กำชับเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลกรณีที่ตำรวจเข้าจับกุมชายวัย 66 ปี ที่ประกอบอาชีพเป็นครูสอนดนตรีพื้นเมือง ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งเป็นลูกศิษย์ โดยภายหลังการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ที่อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โดยให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ (พมจ.เชียงใหม่) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวง พร้อมเร่งเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมต่อไปได้อย่างปกติสุข อีกทั้ง ร่วมกันกำหนดแนวทางการช่วยเหลือตามภารกิจด้านเด็กของกระทรวง ในระยะยาวต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้พิจารณาถึงกรณีหญิงรายหนึ่งต้องรับภาระลำพังเลี้ยงดูคนในครอบครัวอีก2 ชีวิตทั้งลูกชายวัย 14 ปี ที่ป่วยพิการทางสมอง ร่างกายผอมซูบ แขน-ขาลีบ นอนป่วยติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และแม่แก่ชราที่ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ไม่สามารถเดินได้ ซึ่งจำเป็นต้องลาออกจากงานเพื่อมาอยู่ดูแลอย่างใกล้ชิดทำให้ครอบครัวขาดรายได้ ที่อ.แว้ง จ.นราธิวาส โดยให้ พมจ.นราธิวาส พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือตามภารกิจด้านคนพิการและผู้สูงอายุของกระทรวง พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของผู้ป่วยทั้ง 2 คนอย่างใกล้ชิดและให้คำปรึกษาแนะนำในการช่วยเหลือดูแลเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม รวมทั้งให้คำแนะนำปรึกษาแก่ครอบครัวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป
รวมทั้งกรณีสองสามี-ภรรยา วัย 62 ปีและ 52 ปี ซึ่งมีความพิการตาบอดอาศัยกันอยู่เพียงลำพัง แต่สู้ชีวิต ฝึกเรียนอาชีพนวดแผนไทยจนมีความเชี่ยวชาญ และนำมาประกอบอาชีพรับจ้างนวดแผนโบราณ ค่าบริการชั่วโมงละ 100 บาท เพื่อหารายได้เลี้ยงดูตนเอง ไม่เป็นภาระใคร ที่อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่ง ปลัด พม.ได้กล่าวชื่นชมสองสามีภรรยาดังกล่าวที่มีความขยันหมั่นเพียร มานะอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในการดำรงชีวิต นับเป็นตัวอย่างที่ดี กำชับให้ พมจ.ลำปาง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวง พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้ง ให้คำปรึกษาแนะนำช่วยเหลือดูแลเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว พร้อมร่วมกันหาแนวทางการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป .-สำนักข่าวไทย