“พล.อ.ประยุทธ์” ขอบคุณประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ อีก

นครราชสีมา 21 ส.ค.-นายกฯ ระบุให้ความสำคัญกับพื้นที่ภาคอีสานเป็นอันดับแรก เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้เกิดความเท่าเทียม พร้อมดูแลเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ ซึ่งปรับแบบแก้ไขยกระดับเหนือพื้นดิน ผ่านตัวเมืองโคราช พร้อมขอบคุณประชาชนที่อยากให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีก และขอให้ใช้สติในการเลือกตั้ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางไปยังศาลาอเนกประสงค์ สวนสาธารณะเทศบาลตำบลหัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อพบปะและตอบข้อซักถามประชาชนในพื้นที่ เมื่อเดินทางถึงนายกรัฐมนตรีได้รับชมวีดิทัศน์ “ทิศทางการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” พร้อมรับชมคลิปวีดีโอเสียงสะท้อนจากตัวแทนชาวนครราชสีมา ซึ่งฝากข้อคิดเห็นและข้อเรียกร้องในเรื่องต่าง ๆ ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การจัดการขยะ โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมือง การเพิ่มพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะในชุมชน ปัญหาการจราจรเรื่องร้านค้าเล็ก ๆ ในชุมชนขายของได้น้อย และโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่

“ผมถือเป็นลูกหลานของชาวโคราช เพราะเกิดที่ค่ายสุรนารี และแม่เป็นชาวชัยภูมิ จึงถือเป็นลูกอีสาน และยังได้นำเหรียญแม่ย่าโม ซึ่งเคารพนับถือติดตัวมาด้วย เป็นเครื่องยืนยันว่ามาที่นี่แล้วจะไม่โกหก ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคอีสานเป็นอันดับแรก เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ ขอให้ช่วยกันทำให้ประเทศพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง ซึ่งรัฐกำลังเร่งเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพและความพร้อมให้ไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ แต่ต้องอยู่ได้ควบคู่กับอุตสาหกรรมเก่า โดยใช้หลัก เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ และได้รับผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ทั้งนี้สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการตลอดช่วงที่ผ่านมา คือ เร่งเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ทั้งการออกกฎหมาย ที่ต้องทำให้มีความทันสมัย โดยเฉพาะเรื่องการค้าการลงทุน ต้องปรับให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ และการออกกฎหมายจะต้องไม่ลิดรอนสิทธิ์ ไม่บังคับประชาชน แต่ต้องเป็นรูปแบบของความโอบอ้อมอารี ส่วนการเกษตร อยากให้ปลูกพืชผสม เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ป้องกันพืชผลราคาตกต่ำ ที่สำคัญต้องใช้นวัตกรรมมาเพิ่มมูลค่าสินค้า ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตนไม่สบายใจที่เห็นผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ที่ระบุว่า มีประชาชนร้อยละ 67 ไม่อยากให้มีการทุจริต แต่ร้อยละ 32 เห็นว่าโกงได้ แต่ต้องแบ่งปัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และต้องให้ไปตรวจสอบ ว่าไปสอบถามกลุ่มตัวอย่างกลุ่มใดมาบ้าง ขณะที่คะแนนความพึงพอใจ ที่พบว่าความนิยมของตนลดลงนั้น ตนไม่สนใจ เพราะรู้ว่าคนไทยมีนิสัยเบื่อง่าย ขี้รำคาญ ปีแรกก็ชื่นชม แต่พอปีต่อมาก็รู้สึกรับไม่ได้ ที่เหมือนดาราที่มีรุ่นเก่ารุ่นใหม่ แต่รัฐบาลไม่ใช่ละคร เป็นเรื่องจริงที่ต้องทำงาน ทำให้ทั้งประเทศมีความเจริญเติบโต ประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส เพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งในอนาคต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สอบถามประชาชนว่ามีใครจะไปเลือกตั้ง และมีบุคคลในใจหรือไม่ ซึ่งมีผู้ตอบว่าจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบใจ แต่ไม่รู้จะไปเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร  เพราะตนไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่ก็ขอให้รอดู ทุกอย่างอยู่ที่ชะตากรรม เมื่อตนเข้ามาตรงนี้แล้ว ก็ต้องก้มหน้าระบชะตากรรม แต่อยากให้ทุกคนใช้สติในการเลือกตั้ง อย่าเลือกผิดอีก ขอให้เลือกรัฐบาลที่มีธรรมภิบาลและมีจิตใจที่มุ่งมั่นทำเพื่อคนทั้งประเทศ อย่าเลือกแต่คนที่สัญญาว่าจะให้ หรือใช้เงินซื้อเสียง


นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายการพัฒนาอีสานสู่มิติใหม่ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ด้วยการผลักดันและพัฒนาในด้านต่าง ๆ ให้เกิดผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น คือ การบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน และการแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการสร้างความเข้มแข็งของฐานเศรษฐกิจภายในควบคู่กับการแก้ไขปัญหาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“จะดูแลในเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่ ซึ่งปรับแบบแก้ไขแล้ว โดยจะยกระดับเหนือพื้นดิน ผ่านตัวเมืองโคราช ระยะทาง 5 กิโลเมตร วงเงิน 2,600 ล้านบาท เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร และอนุมัติงบฯ 90 ล้านบาท ปรับภูมิทัศน์รอบบึงหัวทะเล พื้นที่ 500 ไร่ เป็นสถานที่พักผ่อน ปอดแห่งที่สองของโคราช เพื่อรองรับประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น และเห็นชอบการผันน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มายังลำตะคอง เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคของชาวโคราช อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานของทุกภาคส่วน ทุกโครงการให้ประสบความสำเร็จ เพื่อให้ชาวอีสานได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งชื่นชมทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการทำงานอย่างทุ่มเท เพื่อประชาชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกล่าวกับประชาชนเสร็จสิ้น นายกรัฐมนตรีได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมาย การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน จำนวน 15 พื้นที่ 11 จังหวัด เนื้อที่ประมาณ 57,832 ไร่ ประกอบด้วย ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 13 พื้นที่ และที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 2 พื้นที่ จัดให้เกษตรกรผู้ยากไร้เข้าทำประโยชน์แล้ว จำนวน 6,339 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปม “ปราสาทตาควาย” ยึดไม่ได้ 100% เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิง

31 ก.ค.- ทบ.แจงปมทหารไทยยึด “ปราสาทตาควาย” ไม่ได้ 100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ได้พื้นที่มากกว่าก่อนปะทะ ลั่นยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิงหากเคลื่อนกำลังไปตัวปราสาทฯ ชี้ทีมโฆษก ทบ. ไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลก่อนเจรจาหยุดยิงถึงสถานการณ์หน้างาน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียว มีข้อจำกัด หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่ เราสามารถควบคุมได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้ โดยพื้นที่ปราสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ จะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหาร ไม่ใช่ตัวปราสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่ ห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือ เนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ทอ.โต้กัมพูชาอ้างขุดพบ MK-84 ชี้ระเบิดเก่าขึ้นสนิม ยันไม่ใช่ของไทย

31 ก.ค.- โฆษกกองทัพอากาศ ยันระเบิดที่ถูกขุดพบจากกัมพูชา ไม่ใช่ของกองทัพอากาศที่ปฏิบัติกับฐานที่มั่นทางทหารของกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตเก่า เหมือนถูกขุดจากใต้ที่พักอาศัย จากกรณีที่พบระเบิด MK-84 ที่กัมพูชาขุดขึ้น ตามที่เฟซบุ๊กของนายแฮง รัตนา เอาภาพมาลงนั้น พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ระบุกว่า ได้มีข้อสังเกตว่า ระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่าและมีลักษณะคล้ายถูกขุดขึ้นมาจากใต้ที่พักอาศัยของประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากปฏิบัติการทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา ดูจากสภาพที่ขึ้นสนิมไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย เนื่องจากลูกระเบิดที่กองทัพอากาศใช้มีสภาพใหม่และสมบูรณ์ ไม่เป็นสนิมขนาดนั้น ดูจากเส้นรอบวงโดยประมาณและความยาวคาดว่าเป็นลูกระเบิดอากาศขนาด 2000 ปอนด์ แบบตะวันตกที่มีใช้ทั่วไปสภาพความลึก และวางขนานกับพื้น ไม่เหมือนทิ้งจากเครื่องบิน .-313 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปากตระกูลฮุน

กระทรวงมหาดไทย 31 ก.ค.- “ภูมิธรรม” เสียใจผู้อพยพจบชีวิตเหตุเครียดอยากกลับบ้าน ขอประเมินให้ปลอดภัยก่อน บอกไทยประสบความสำเร็จยึดดินแดนได้ ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปาก 2 พ่อลูกตระกูลฮุน ชี้ ทหารกัมพูชา 18 นาย รุกล้ำเข้าไทยหลังประกาศหยุดยิง เตรียมส่งตัวคืน แต่อีกฝ่ายปล่อยเฟกนิวส์ จึงต้องคุมตัวสอบก่อน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้พบว่ามีประชาชนฆ่าตัวตาย เพราะเครียดต่อสถานการณ์และอยากกลับบ้าน ว่าตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นความห่วงใยของรัฐบาล แม้ว่าจะอยากให้เดินทางกลับบ้านพักเลยแต่สถานการณ์ยังไม่มั่นใจ 100 % เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่กัมพูชาพูดสามารถเชื่อได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอการประเมินอีกครั้งหนึ่งก่อนว่าหากไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านพักได้ ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าการที่กัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงพื้นที่ เป็นเพราะเขาเป็นผู้ก่อเหตุจึงมั่นใจว่าเราจะไม่ทำอะไร และเราเองก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มั่นใจว่ากัมพูชาจะกระทำอย่างไร ส่วนไทยจะใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด้านการทูตและด้านพื้นที่อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้เราไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา การดำเนินการต่างๆเราก็คุยกับนานาชาติอยู่เสมอ แต่ข้อสำคัญอยู่ที่หลักฐานเพราะเขาพูดไปได้เรื่อยๆ แต่เราพูดมีหลักฐานรองรับ ขณะที่ข้อเท็จจริงเรื่องปราสาทตาควายที่มีการพูดกันว่าทางกัมพูชาเข้าครอบครองตัวปราสาท แต่เราได้ครอบครองเพียงพื้นที่โดยรอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากพูดถึงในแง่การยุทธ์ การยึดคืนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แล้วพื้นที่ตัวปราสาทเป็นเช่นไร […]