“สมชัย” เชิญชวนชมการสาธิตระบบเลือกตั้งแยกเบอร์รายเขต 23 ส.ค.นี้

สำนักงาน กกต. 17 ส.ค.-“สมชัย” แจงการสาธิตระบบการเลือกตั้งแบบแยกเบอร์รายเขต 23 ส.ค.นี้ ไม่ได้แกล้งให้เกิดปัญหา หวังใช้เป็นเวทีเสนอแนะและปรับปรุงกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ในช่วงที่ยังแก้ไขได้ พร้อมเปิดกว้างผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมสังเกตการณ์ 


นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านบริหารกลาง เปิดเผยว่า วันนี้ (17 ส.ค.) ได้มีการจัดประชุมผู้รับผิดชอบในการทำงานของ กกต. ซึ่งได้มีการประเมินผลการทำงานในรอบ 9 เดือน เพื่อดูว่าตัวชี้วัดต่าง ๆ ที่ได้คำนวณไว้ของหน่วยงานต่าง ๆ ใน กกต.  ทำงานครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งการติดตามผลการทำงานนี้ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมการเลือกตั้ง การเตรียมองค์กรเอกชนเพื่อสอดส่องดูแลการเลือกตั้งให้ครบทุกจังหวัด ครบคลุมพื้นที่อย่างน้อย 75 เปอร์เซ็นต์ การเตรียมการด้านนวัตกรรมสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้ตนได้เน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้เตรียมการทำตัวชี้วัดการทำงานในปี 2561 โดยให้ทุกเรื่องสามารถทำงานต่อเนื่องจากปีนี้ และส่งต่อการทำงานให้ กกต.ชุดใหม่ให้เรียบร้อย ทั้งนี้ภาพรวมการประเมินผลเป็นไปด้วยดี

นายสมชัย ให้สัมภาษณ์หลังส่งการ์ดเชิญถึง 3 องค์กร ให้มาร่วมชมการสาธิตระบบการเลือกตั้งแบบแยกเบอร์รายเขตในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ว่า ได้มีการจัดส่งบัตรเชิญทางไปรษณีย์ให้แก่บุคคลต่าง ๆ ที่คิดว่าถ้ามาร่วมชมการสาธิตแล้ว บุคคลเหล่านั้นจะสามารถให้คำแนะนำในการปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น เช่น  อดีต กกต.บางคน ที่อยู่ในกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และนักวิชาการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่างกฎหมาย คาดว่าถ้าบุคคลเหล่านี้มีเวลาว่าง ก็อยากเชิญให้มาร่วมสังเกตการณ์


“หลายคนก็มองในมุมว่า  กกต.คงจะแกล้งทำให้เป็นปัญหาหรือเปล่า จะได้ยกเลิกระบบดังกล่าว ต้องบอกว่าไม่ใช่ กกต.จะพยายามทำให้ดีที่สุด ออกแบบให้สมบูรณ์ที่สุดและให้สะดวกที่สุด โดยอยากให้ช่วยดูว่าการออกแบบดังกล่าวยังเห็นข้อบกพร่องอะไร จะได้ปรับปรุงแก้ไข เช่น เรื่องบัตรเลือกตั้ง เราได้ให้นโยบายไปว่าต้องเป็นบัตรที่ดีที่สุดต่อประชาชน ดังนั้นบัตรเลือกตั้งที่จะใช้ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ก็จะมีทั้งหมายเลขผู้สมัคร ชื่อผู้สมัคร โลโก้และชื่อของพรรค ซึ่งหมายความว่าประชาชนจะไม่ผิดหลง สามารถเลือกคนและพรรคได้ถูกต้อง หลายคนบอกว่าเอาแค่ชื่อพรรคอย่างเดียวได้หรือไม่ ไม่ต้องเอาโลโก้ คำตอบ คือ คนมีหลายประเภท บางคนอาจจะอ่านหนังสือไม่ออก ก็ให้จำโลโก้พรรคแทน เช่นเดียวกับทำไมถึงต้องมีชื่อผู้สมัคร ก็เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าคน ๆ นี้เป็นคนที่เราต้องการจะเลือกจริง ๆ การออกแบบดังกล่าว ถ้าหากว่าได้ผล ไม่เกิดความสับสนและก็เป็นสิ่งที่ดี จะเป็นแบบที่จะใช้ในการเลือกตั้งจริงในอนาคต” นายสมชัย กล่าว

ส่วนกรณีที่ กรธ.ไม่ได้ฟันธงว่าจะมีการใส่ชื่อผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งลงไปด้วยนั้น นายสมชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ กกต.เองคิดว่าเป็นประโยชน์ เพราะบัตรเลือกตั้งดังกล่าว เป็นการเลือกตั้งตัวบุคคลและเลือกพรรค หากอะไรก็ตามที่สามารถทำให้ประชาชนเลือกได้อย่างถูกต้องก็ควรทำ คงไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอให้เขียนไว้ในกฎหมายก่อน  อะไรก็ตามที่เป็นแนวความคิดที่ดี

“ในการเลือกตั้งบางประเทศที่ใช้ระบบทัชสกรีนส์บนจอคอมพิวเตอร์ ในนั้นมีรูปผู้สมัคร ทำให้รู้ว่าเป็นใคร โดยเวลาเลือกก็จะกดที่รูปผู้สมัครแต่ละคน จะทำให้ประชาชนเลือกผู้สมัครได้อย่างไม่ผิดพลาด ดังนั้นคงไม่ต้องไปรอว่าต้องมีกฎหมายออกมา จึงจะคิดทำ อะไรก็ตามที่คิดแล้วมีประโยชน์และสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชน ทำให้ประชาชนเลือกได้อย่างถูกต้อง ทั้งคนและพรรค สมควรทำ อย่าไปสร้างระบบที่สับสน” นายสมชัย กล่าว


เมื่อถามว่า หลังการสาธิตแล้วจะมีการนำเสนอเรื่องนี้ให้ กรธ. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หรือไม่ เพราะจะเป็นผู้พิจารณากฎหมายนี้ในอนาคต นายสมชัย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะกระบวนการร่างกฎหมายก็ยังไม่เสร็จ ในขณะที่กำลังร่างฯ สามารถแก้ไขได้ ก็ควรจะหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อนำไปใช้ในการออกแบบ

“ไม่ควรที่จะใช้วิธีการที่คิดว่าต้องรอให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาคิด ค่อยมาแก้ ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเป็นเหมือนการออกกฎหมายหลายฉบับที่เคยมีบทเรียนในอดีตว่าออกมาแล้วท้ายที่สุดก็ต้องมายกเลิก มาเปลี่ยนแปลงแก้ไข ดังนั้นถ้าทำให้ง่ายให้เสร็จในขั้นตอนเดียว คือในขั้นตอนของการร่างฯ จะดีที่สุด แล้วคนที่ร่างฯ ไม่ใช่คนอื่นไกล เป็นสิ่งที่สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ ไม่ต้องกังวลว่ามาแล้วจะเป็นปัญหา  มาแล้วจะต้องมาช่วยแก้ปัญหา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากเชิญชวน ไม่ได้เป็นเพียงแต่ว่าคนที่เราส่งจดหมายเชิญเท่านั้น ท่านอื่น ๆ ก็มาได้  ก็ยินดีเรียนเชิญ” นายสมชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]