รัฐสภา 15 ส.ค.- “มีชัย” ยืนยันจำเป็นต้องเซ็ตซีโร่ กสม. เพื่อให้เป็นไปตามหลักการปารีส ชี้ การให้อยู่ต่อครึ่งวาระ หรือทั้งวาระ ไทยก็ถูกลดเกรดอยู่ดี หวังที่ประชุม สนช.จะเข้าใจเหตุผล
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปรับแก้ให้ กสม.ชุดเดิมอยู่ในวาระต่อ จากที่ กรธ.เสนอให้เซ็ตซีโร่ ว่า ตัวแทน กรธ.ที่อยู่ในกรรมาธิการฯได้สงวนคำแปรญัตติไว้ และจะได้อธิบายให้ สนช.ได้เข้าใจถึงเหตุผลในการเซ็ตซีโร่
“การให้อยู่ต่อครึ่งวาระ ไม่ต่างอะไรจากการอยู่ต่อทั้งวาระ ที่จะส่งผลให้ไทยยังคงถูกลดอันดับ จากเกรด เอ จากสมาชิกที่มีสถานะสมบูรณ์ไปเป็นเกรด บี อยู่ดี เพราะกรรมการ กสม.ไม่เป็นไปตามหลักการปารีส เนื่องจากไม่มีความหลากหลาย การสรรหาที่ผ่านมาไม่ได้มีขั้นตอนที่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องหลัก ที่สำคัญกว่าการส่งรายงานล่าช้าด้วยซ้ำ” นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย ยังหวังว่า สนช.จะเข้าใจ และรับฟังในการพิจารณา วาระ 2 และ 3 อย่างไรก็ตาม หาก สนช.ยังยืนยันเดินหน้าปรับแก้ ก็เป็นเรื่องที่ สนช.จะต้องอธิบายต่อสังคมเอง
“เขาดาวน์เกรดเราเพราะเหตุนี้ ดังนั้น ยิ่งนานเท่าไร เราก็ถูกดาวน์เกรดไปเรื่อยๆ และลำพังการสรรหาเพื่อให้ตรงตามหลักการปารีสโดยตรง ต้องใช้เวลาถึง 200 กว่าวัน” นายมีชัย กล่าว
ส่วนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวจะมีผลให้เป็นบรรทัดฐานของการทำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือไม่นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ยังไม่ต้องการให้มองไปไกล ขอแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน
สำหรับกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเชิญ กรธ.ไปดูงานการทดลองการเลือกตั้ง เพื่อจะได้ทราบว่าการใช้รูปแบบแบ่งเขตเรียงเบอร์มีความยุ่งยากนั้น นายมีชัย กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ยังไม่มีผลบังคับใช้ ยังไม่ทราบว่าการเลือกตั้งเป็นอย่างไร แล้วจะจัดการเลือกตั้งได้อย่างไร ดังนั้น ควรให้กฎหมายออกมาก่อน และทราบว่าหน้าตาจะเป็นอย่างไร แล้วค่อยว่ากัน .- สำนักข่าวไทย