ไทย-จีนเห็นพ้องส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคให้เพิ่มมากขึ้น

ทำเนียบฯ 9 ส.ค.-เอกอัครราชทูตจีนฯ เข้าพบนายกฯ ในโอกาสพ้นหน้าที่ ย้ำความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจและด้านต่าง ๆ ที่สำคัญของไทยไว้อย่างต่อเนื่อง พร้อมมอบเงิน 1 ล้านบาท ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ขณะที่นายกฯ ขอบคุณทูตจีนฯ ทำงานอย่างเต็มที่ ส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีนใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคให้เพิ่มมากขึ้น


พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังนายหนิง ฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณที่เอกอัครราชทูตจีนฯ ได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ไทย-จีนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในช่วงตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ได้ดำรงตำแหน่ง และได้ช่วยประสานงานในการเดินทางเยือนจีนของบุคคลสำคัญของไทยอย่างต่อเนื่อง และขอให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทยจะสานต่อความร่วมมือกับเอกอัครราชทูตจีนฯ คนใหม่อย่างเต็มที่เช่นเดิม ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ ได้แสดงความขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีสละเวลาให้เข้าพบในวันนี้ และรู้สึกประทับใจที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ เห็นได้จากการเดินทางไปเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 ครั้ง ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

พล.ท.วีรชน กล่าวว่า สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝ่ายมีพัฒนาการที่ดี โดยจีนยังคงรักษาความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ ย้ำว่าจะสนับสนุนให้ภาคธุรกิจจีนเข้ามาลงทุนในไทย โดยเฉพาะในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนไทยในจีน การท่องเที่ยว ซึ่งทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ประชาชนของทั้งสองประเทศเดินทางไปท่องเที่ยวซึ่งกันและกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณเอกอัครราชทูตจีนฯ ที่ช่วยผลักดันโครงการรถไฟฯ ไทย-จีน มาโดยตลอด ซึ่งฝ่ายไทยพยายามผลักดันให้โครงการดังกล่าวคืบหน้า เพื่อจะเป็นสัญลักษณ์ความร่วมมือระดับรัฐบาลของทั้งสองประเทศ จึงขอให้ฝ่ายจีนคำนึงถึงความสำคัญของโครงการดังกล่าวในเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ


พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาทะเลจีนใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยสนับสนุนการคงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงในภูมิภาค จึงหวังว่าจีนจะมีบทบาทที่สร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ด้วยสันติวิธี นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมความเชื่อมโยงในภูมิภาคให้เพิ่มมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะสามารถเป็นประตูสู่อาเซียนให้แก่จีนได้ ผ่านระเบียงเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่าง EEC กับนโยบายสำคัญของจีน โดยเฉพาะนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt and Road) ของผู้นำจีน ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ ยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนความเชื่อมโยงในภูมิภาคกับไทยและประเทศสมาชิกอาเซียน ภายใต้กรอบความร่วมมือต่าง ๆ ทั้ง อาเซียน-จีน GMS และแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) 

พล.ท.วีรชน กล่าวด้วยว่า เอกอัครราชทูตจีนฯ ยืนยันว่าจีนจะสานต่อความร่วมมือและความสัมพันธ์อันดีอย่างนี้ไปโดยตลอด เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีกำหนดเดินทางเยือนจีนเพื่อเข้าร่วมการประชุม Dialogue of Emerging Markets and Developing Countries ในช่วงการประชุม BRICS Summit ครั้งที่ 9 ที่จีน และหวังว่าจะมีโอกาสพบกับประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีจีนในการประชุมดังกล่าว

“ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตจีนฯ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์อุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสานของไทย และขอบริจาคเงินจำนวน 1,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยนายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณ พร้อมกล่าวว่ารัฐบาลจะนำเงินบริจาคดังกล่าวให้กับศูนย์ช่วยเหลือประชาชนประสบภัยน้ำท่วมที่รัฐบาลได้จัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางการรับบริจาคของประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวน ที่มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 160 คน พร้อมกล่าวถึงสุภาษิตไทยที่ว่า ไทยกับจีนนั้นจะสุขก็สุขด้วยกัน จะทุกข์ก็ทุกด้วยกัน” พล.ท.วีรชน กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง

ดอยอินทนนท์หนาวจัด

อากาศหนาวปกคลุมภาคเหนือ ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเหลือ 1 องศาฯ

อากาศหนาวระลอกใหม่ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ 1 องศาฯ ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิ 5 องศาฯ นักท่องเที่ยวรอชมแสงแรกจนเต็มพื้นที่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน หนาวจัด กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน อากาศหนาวจัด ส่วนประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยกับมีลมแรง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาฯ

รถรางโดยสารชนกันในฝรั่งเศส บาดเจ็บ 68 คน

รถรางโดยสาร 2 ขบวน ชนประสานงากันในเมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 68 คน