IRPC เตรียมแผนรับมือกระแส EV ลดผลิตน้ำมันเพิ่มปิโตรเคมี

กรุงเทพฯ 9. ส.ค. – ไออาร์พีซีเดินหน้าแผน Beyond Everest เสนอบอร์ดไตรมาส 3/60 ลงทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์ ลดการผลิตน้ำมันเปลี่ยนเป็นปิโตรเคมี รับกระแส EV พร้อมลงทุนย่อยอีกหลายโครงการคาดปี 2561 สร้างกำไรสูงสุด


นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นจากกระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามาแทนที่น้ำมัน ซึ่งโรงกลั่นไออาร์พีซี จะต้องเพิ่มความระมัดระวังและหันไปเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเคมีมาทดแทนน้ำมัน  โดยโครงการล่าสุดที่จะดำเนินการและจะศึกษาเสร็จเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในไตรมาส 3/2560 คือ โครงการ Beyond Everest ซึ่งจะประกอบด้วย 2 โครงการ คือ  ขยายกำลังผลิตอะโรเมติกส์ 1.1 ล้านตันต่อปี  โดยใช้วัตถุดิบจากโครงการ UHV และโครงการขยายกำลังผลิตแนฟทาแครกเกอร์ ทำให้ได้เอทิลีนเพิ่มอีกร้อยละ 50 หรือประมาณ 300,000 ตันต่อปี  คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่ง 2 โครงการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตปิโตรเคมีได้ร้อยละ 13-15 ของยอดกำลังกลั่น ซึ่งปัจจุบันทำปิโตรเคมีอยู่แล้วร้อยละ 15 จะเพิ่มเป็นร้อยละ 28-30 เพื่อรับมือกับการหลีกหนีจากผลิตเบนซีนมาเป็นปิโตรเคมีแทน และในอนาคตอาจมาทดแทนการกลั่นน้ำมันดีเซล และจะส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มราคาตลาด(Market GIM) ยืนอยู่เหนือ20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 14.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล 

“การผลิตปิโตรเคมียังเติบโตได้อีกมาก ตราบใดที่เศรษฐกิจโลกยังขยายตัว เพราะหากจีดีพีโลกโตร้อยละ 3-3.5 ความต้องการปิโตรเคมีจะโตมากกว่า หรืออยู่ที่ร้อยละ 4-5 และราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐ โอกาสที่ไบโอเคมีจะเข้ามาทดแทนปิโตรเคมีเป็นไปได้ยาก” นายสุกฤตย์ กล่าว


ส่วนโครงการปรับปรุงคุณภาพการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) มูลค่าเงินลงทุน 34,000 ล้านบาทที่กำลังการผลิตยังไม่เป็นไปตามแผนนั้น บริษัทได้เตรียม 3 แนวทางปรับปรุงคือ

 1. ปรับสูตรสารเร่งปฏิกิริยาเพื่อให้ได้พร็อบโพรลีน เป็นไปตามเป้าที่ 320,000 ตัน/ปี จากขณะนี้ผลิตได้เพียง 250,000 ตัน/ปี ทำให้มาร์จินต่ำกว่าเป้าหมายเดิม 30 เซนต์/บาร์เรล หรือรายได้หายไป 600 ล้านบาทเสร็จสิ้นปีนี้  2. ติดตั้งอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน (Catalyst Cooler) ในหน่วยเพิ่มมูลค่าน้ำมันหนัก โดยใช้ตัวเร่งปฏิกริยา ใช้เงินลงทุน 1,390 ล้านบาท  คาดว่าจะเสร็จสิ้นปี2561โดยจะทำให้ใช้น้ำมันดิบคุณภาพหลากหลายต้นทุนจะต่ำลง และ  3.โครงการMax Gasoline ติดตั้งหอกลั่น ลงทุนอีก 1,100 ล้านบาท ปรับสูตรคุณภาพน้ำมันที่เดิมส่งออกให้สามารถจำหน่ายเบนซินG -Based ในประเทศไทยรองรับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ทำให้มีน้ำมันเบนซินจำหน่ายได้เพิ่มอีก 25 ล้านลิตร/เดือนจากปัจจุบันประเทศไทยต้องนำเข้าเบนซินเดือนละ 130 ล้านลิตร /เดือนโครงการนี้บริษัทได้มาร์จินเพิ่ม 40 เซนต์/บาร์เรล ลงทุน 1,100 ล้านบาท เสร็จสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้

“ทั้ง 3 โครงการนี้จะทำให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มตามราคาตลาด(Market GIM) เพิ่มขึ้น 1.9-2.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สิ้นปี 2561 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  โดยปี 2561เป็นปีกำไรดีที่สุดเป็นประวัติการณ์เพราะรับรู้ผบประโยขน์เต็มที่จาก UHV การขยายกำลังการผลิต PP และโครงการเอเวอร์เรสต์” นายสุกฤตย์ กล่าว


สำหรับโครงการขยาย PP หรือโพลีไพรไพลีนอีก 300,000 ตัน/ปีจากปัจจุบัน 475,000 ตัน/ปี จะก่อสร้างเสร็จสิ้นในเดือนไตรมาส 3/2560 ได้มาร์จิ้นเพิ่มอีก 1 ดอลลาร์/บาร์เรล เม็ดเงินลงทุน 200 ล้านดอลลาร์

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า หากโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้จะส่งผลให้ในปี 2561 บริษัท มีกำไรมากสุดเป็นประวัติการณ์ และปีนี้จะพยายามรักษาทำกำไรสุทธิให้มากกว่าปี 2559 ที่มี 9,700 ล้านบาท แต่ก็ยอมรับว่าผลดำเนินการได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ช่วงต้นปี ราคาพร็อพไพลีนที่อ่อนค่าและโครงการ UHV ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปีนี้จะสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (EBIT) ได้ตามเป้าหมายที่ 7,000 ล้านบาท แม้ครึ่งแรกของปีจะทำได้ 2,350 ล้านบาท และตั้งเป้า EBIT ปี 2561 ที่ 10,000 ล้านบาท

สำหรับเงินลงทุนในอนาคตคาดว่าจะมาจากผลดำเนินการเป็นหลักและยังอยู่ในข้อกำหนดของ ปตท.ที่ให้บริษัทใรเครือรักษาระดับภาระหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 1 เท่าโดยปัจจุบัน ไออาร์พีซีอยู่ที่ 0.84 เท่า อย่างไรก็ตาม D/E อาจจะเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 1 เท่าหลังจาก สัญญาระยะเวลาการจ่ายค่าน้ำมันดิบ(Credit term) กับ ปตท. จะลดจาก 60 วัน เหลือ 30 วันในปีหน้า ซึ่งหากลดลงก็จะทำให้หนี้เงินกู้เพื่อซื้อน้ำมันดิบกลับเข้ามาเป็นภาระหนี้ปกติประมาณ 10,000 ล้านบาท/ปี.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง