IRPC เตรียมแผนรับมือกระแส EV ลดผลิตน้ำมันเพิ่มปิโตรเคมี

กรุงเทพฯ 9. ส.ค. – ไออาร์พีซีเดินหน้าแผน Beyond Everest เสนอบอร์ดไตรมาส 3/60 ลงทุน 1.2 พันล้านดอลลาร์ ลดการผลิตน้ำมันเปลี่ยนเป็นปิโตรเคมี รับกระแส EV พร้อมลงทุนย่อยอีกหลายโครงการคาดปี 2561 สร้างกำไรสูงสุด


นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นจากกระแสการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะเข้ามาแทนที่น้ำมัน ซึ่งโรงกลั่นไออาร์พีซี จะต้องเพิ่มความระมัดระวังและหันไปเพิ่มกำลังการผลิตปิโตรเคมีมาทดแทนน้ำมัน  โดยโครงการล่าสุดที่จะดำเนินการและจะศึกษาเสร็จเสนอคณะกรรมการบริษัทพิจารณาในไตรมาส 3/2560 คือ โครงการ Beyond Everest ซึ่งจะประกอบด้วย 2 โครงการ คือ  ขยายกำลังผลิตอะโรเมติกส์ 1.1 ล้านตันต่อปี  โดยใช้วัตถุดิบจากโครงการ UHV และโครงการขยายกำลังผลิตแนฟทาแครกเกอร์ ทำให้ได้เอทิลีนเพิ่มอีกร้อยละ 50 หรือประมาณ 300,000 ตันต่อปี  คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวม 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่ง 2 โครงการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตปิโตรเคมีได้ร้อยละ 13-15 ของยอดกำลังกลั่น ซึ่งปัจจุบันทำปิโตรเคมีอยู่แล้วร้อยละ 15 จะเพิ่มเป็นร้อยละ 28-30 เพื่อรับมือกับการหลีกหนีจากผลิตเบนซีนมาเป็นปิโตรเคมีแทน และในอนาคตอาจมาทดแทนการกลั่นน้ำมันดีเซล และจะส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มราคาตลาด(Market GIM) ยืนอยู่เหนือ20 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล จากช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ระดับ 14.33 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล 

“การผลิตปิโตรเคมียังเติบโตได้อีกมาก ตราบใดที่เศรษฐกิจโลกยังขยายตัว เพราะหากจีดีพีโลกโตร้อยละ 3-3.5 ความต้องการปิโตรเคมีจะโตมากกว่า หรืออยู่ที่ร้อยละ 4-5 และราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐ โอกาสที่ไบโอเคมีจะเข้ามาทดแทนปิโตรเคมีเป็นไปได้ยาก” นายสุกฤตย์ กล่าว


ส่วนโครงการปรับปรุงคุณภาพการผลิตสู่ผลิตภัณฑ์สะอาด (UHV) มูลค่าเงินลงทุน 34,000 ล้านบาทที่กำลังการผลิตยังไม่เป็นไปตามแผนนั้น บริษัทได้เตรียม 3 แนวทางปรับปรุงคือ

 1. ปรับสูตรสารเร่งปฏิกิริยาเพื่อให้ได้พร็อบโพรลีน เป็นไปตามเป้าที่ 320,000 ตัน/ปี จากขณะนี้ผลิตได้เพียง 250,000 ตัน/ปี ทำให้มาร์จินต่ำกว่าเป้าหมายเดิม 30 เซนต์/บาร์เรล หรือรายได้หายไป 600 ล้านบาทเสร็จสิ้นปีนี้  2. ติดตั้งอุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน (Catalyst Cooler) ในหน่วยเพิ่มมูลค่าน้ำมันหนัก โดยใช้ตัวเร่งปฏิกริยา ใช้เงินลงทุน 1,390 ล้านบาท  คาดว่าจะเสร็จสิ้นปี2561โดยจะทำให้ใช้น้ำมันดิบคุณภาพหลากหลายต้นทุนจะต่ำลง และ  3.โครงการMax Gasoline ติดตั้งหอกลั่น ลงทุนอีก 1,100 ล้านบาท ปรับสูตรคุณภาพน้ำมันที่เดิมส่งออกให้สามารถจำหน่ายเบนซินG -Based ในประเทศไทยรองรับนโยบายรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ทำให้มีน้ำมันเบนซินจำหน่ายได้เพิ่มอีก 25 ล้านลิตร/เดือนจากปัจจุบันประเทศไทยต้องนำเข้าเบนซินเดือนละ 130 ล้านลิตร /เดือนโครงการนี้บริษัทได้มาร์จินเพิ่ม 40 เซนต์/บาร์เรล ลงทุน 1,100 ล้านบาท เสร็จสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้

“ทั้ง 3 โครงการนี้จะทำให้กำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มตามราคาตลาด(Market GIM) เพิ่มขึ้น 1.9-2.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สิ้นปี 2561 จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  โดยปี 2561เป็นปีกำไรดีที่สุดเป็นประวัติการณ์เพราะรับรู้ผบประโยขน์เต็มที่จาก UHV การขยายกำลังการผลิต PP และโครงการเอเวอร์เรสต์” นายสุกฤตย์ กล่าว


สำหรับโครงการขยาย PP หรือโพลีไพรไพลีนอีก 300,000 ตัน/ปีจากปัจจุบัน 475,000 ตัน/ปี จะก่อสร้างเสร็จสิ้นในเดือนไตรมาส 3/2560 ได้มาร์จิ้นเพิ่มอีก 1 ดอลลาร์/บาร์เรล เม็ดเงินลงทุน 200 ล้านดอลลาร์

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า หากโครงการต่าง ๆ เป็นไปตามแผนที่วางไว้จะส่งผลให้ในปี 2561 บริษัท มีกำไรมากสุดเป็นประวัติการณ์ และปีนี้จะพยายามรักษาทำกำไรสุทธิให้มากกว่าปี 2559 ที่มี 9,700 ล้านบาท แต่ก็ยอมรับว่าผลดำเนินการได้รับผลกระทบจากการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ช่วงต้นปี ราคาพร็อพไพลีนที่อ่อนค่าและโครงการ UHV ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปีนี้จะสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (EBIT) ได้ตามเป้าหมายที่ 7,000 ล้านบาท แม้ครึ่งแรกของปีจะทำได้ 2,350 ล้านบาท และตั้งเป้า EBIT ปี 2561 ที่ 10,000 ล้านบาท

สำหรับเงินลงทุนในอนาคตคาดว่าจะมาจากผลดำเนินการเป็นหลักและยังอยู่ในข้อกำหนดของ ปตท.ที่ให้บริษัทใรเครือรักษาระดับภาระหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 1 เท่าโดยปัจจุบัน ไออาร์พีซีอยู่ที่ 0.84 เท่า อย่างไรก็ตาม D/E อาจจะเพิ่มขึ้นใกล้ระดับ 1 เท่าหลังจาก สัญญาระยะเวลาการจ่ายค่าน้ำมันดิบ(Credit term) กับ ปตท. จะลดจาก 60 วัน เหลือ 30 วันในปีหน้า ซึ่งหากลดลงก็จะทำให้หนี้เงินกู้เพื่อซื้อน้ำมันดิบกลับเข้ามาเป็นภาระหนี้ปกติประมาณ 10,000 ล้านบาท/ปี.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]

นายกฯ ถกปม ฮ.ตำรวจตก สั่งเร่งสำรวจอากาศยานทุกลำ

ทำเนียบ 28 พ.ค.- นายกฯ หารือ ผบ.ตร. รายงานข้อมูลอุบัติเหตุ ฮ.ตำรวจตก พบอากาศยานของกองบินตำรวจอายุใช้งานยาวนาน-ขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ สั่งเร่งสำรวจลำดับความสำคัญจัดงบฯ ซื้อใหม่ ห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของ ตร. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียภายหลัง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เข้าพบบนตึกไทยคู่ฟ้า ว่า จากกรณีเครื่องบินของกองบินตำรวจประสบอุบัติเหตุตกในช่วงที่ผ่านมา วันนี้ดิฉันได้เรียนเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และกองบินตำรวจ มารายงานข้อมูลถึงสาเหตุของเหตุการณ์ รวมถึงแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต จากรายงานพบว่า อากาศยานของกองบินตำรวจ ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ จำนวนมากมีอายุการใช้งานยาวนาน และขาดการซ่อมบำรุงที่สมบูรณ์ จนอาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติภารกิจ ดิฉันได้สั่งการให้กองบินตำรวจเร่งสำรวจสถานะของอากาศยานทุกลำ ทั้งที่ยังใช้งานอยู่ อยู่ระหว่างซ่อมบำรุง หรือพิจารณาปลดประจำการ เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอ รวมถึงการจัดหาเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ใหม่ให้เหมาะสมกับภารกิจในอนาคต เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน แต่ชีวิตความปลอดภัย และสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเช่นเดียวกัน .-316 -สำนักข่าวไทย