คุมเข้มรถป้ายแดง หากใช้เกิน 60 วัน จับ-ปรับสูงสุดหลักหมื่น ดีเดย์ 1 ต.ค.นี้

กรุงเทพฯ 8 ส.ค.-กรมการขนส่งทางบก เตรียมบังคับใช้กฎหมายกับรถป้ายแดงอย่างจริงจัง โดยตั้งวันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี หากใช้รถป้ายแดงเกิน 60 วันจะถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และตั้งแต่ 1 มกราคมปีหน้าจะใช้ได้ไม่เกิน 30 วัน



นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมฯ จะร่วมกับตำรวจบังคับใช้กฎหมาย โดยตั้งแต่ 1 ตุลาคมจนถึงสิ้นปี ผู้ที่ใช้รถป้ายแดงเกินกว่า 60 วัน จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และตั้งแต่ 1 มกราคม 2561 จะใช้รถป้ายแดงได้ไม่เกิน 30 วัน  ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการพิทักษ์สิทธิ์ให้ผู้ซื้อรถและเพิ่มรายได้ให้ภาครัฐ จากปัจจุบันมีรายได้จากการจดทะเบียนรถใหม่ประมาณปีละ 30,000 ล้านบาท สำหรับผู้ซื้อรถ หากผู้จำหน่ายรถไม่จดทะเบียนให้แล้วเสร็จใน 30 วัน สามารถร้องทุกข์ได้ที่ 1584 หรือสำนักงานขนส่งทั่วประเทศ


ด้าน พล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า หลังวันที่ 1 ตุลาคม ตำรวจจะใช้ดุลยพินิจในการดำเนินการ หากกระทำผิดครั้งแรก หรือเกิน 60 วันมาเล็กน้อย อาจปรับแค่ 1,000 บาท แต่หากจงใจถือครองนานหรือกระทำผิดซ้ำ เตรียมจับปรับเต็มที่คือ 10,000 บาทได้ทันที

สำหรับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการใช้รถยนต์ป้ายแดง อย่างที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้บอก คือ มีความเข้าใจผิดเป็นอย่างมาก เพราะตามกฎหมายสำคัญคือ “รถที่ยังไม่จดทะเบียน จะไม่สามารถนำมาใช้ได้”


และตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522  มาตรา 27 ระบุไว้ชัดเจนว่า รถที่ใช้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม หากจะขับเองหรือให้ผู้อื่นขับ ต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน และขับได้เฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก เว้นแต่มีความจำเป็นและต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์และกฎกระทรวง ส่วนการออกใบอนุญาตนายทะเบียนจะเป็นผู้ดำเนินการออก เครื่องหมายพิเศษ หรือสมุดคู่มือ โดยสามารถสับเปลี่ยนกันได้ ไม่เฉพาะคันรถ

หากละเอียดไปกว่านั้น มาตรา 28 ใน พ.ร.บ.รถยนต์ฯ ระบุว่า การขับรถยนต์คันนั้นๆ ผู้ขับต้องบันทึกรายการหรือรายละเอียดต่างๆ เช่น ชื่อรถ, หมายเลขตัวรถ, หมายเลขเครื่อง รวมถึงความประสงค์ในการขับรถ, วัน/เดือน/ปี และเวลาที่นำรถออกไปขับและกลับถึงที่ รวมถึงชื่อ-นามสกุลผู้ขับ

สำหรับมาตรการจับปรับจริงครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับประชาชน เพราะ “ร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ…..” ฉบับใหม่ อาจมีการประกาศใช้กลางปี 2561 โดยอยู่ระหว่างพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เป็นการรวม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก กับ พ.ร.บ.รถยนต์ เข้าด้วยกัน และมีการยกเลิกรถป้ายแดง โดยมีบทบัญญัติไว้ชัดเจนคือ มาตรา 23 ผู้จำหน่ายรถต้องส่งมอบทะเบียนรถในวันส่งมอบรถให้ผู้ซื้อ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ