กรุงเทพฯ 18 ม.ค.- ตำรวจคุมเข้มควันดำเกินค่ามาตรฐาน เพียงครึ่งเดือนแรกของปี จับปรับรถไปแล้วกว่า 2,400 คัน ขณะที่การกวดขันรถจักรยานยนต์ขับขี่ไม่ปลอดภัย มีกว่า 90,000 ราย
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครเผชิญกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ PM2.5 มีค่าเกินมาตรฐาน โดยเฉพาะพื้นที่ชานเมือง ที่มีรถบรรทุกใช้เส้นทางจำนวนมาก เช่น ย่านรามอินทรา มีนบุรี พระราม 2 และบรมราชชนนี กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจรถควันดำ ทั้งจุดตรวจถาวรและจุดตรวจแบบเคลื่อนที่ รวม 20 จุด เฉพาะช่วงวันที่ 1-15 มกราคมที่ผ่านมา มีการเรียกตรวจรถบรรทุกและรถสาธารณะรวม 3,748 คัน พบรถควันเกินกำหนด 2,401 คัน มีการออกคำสั่งห้ามใช้รถทั้งสิ้น 88 คัน ซึ่งหากเป็นรถบรรทุก หรือรถสาธารณะ จะมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท ส่วนรถส่วนบุคคลจะมีโทษปรับสูงสุด ไม่เกิน 1,000 บาท และจะถูกออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวและห้ามใช้เด็ดขาด
ส่วนการดำเนินคดีกับรถจักรยานยนต์ในช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ถึง 16 มกราคม 2565 มีการจับกุมในข้อหาหลัก คือ ขับรถย้อนศร, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร, ขับรถบนทางเท้า, ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย รวม 90,446 ราย ซึ่งข้อหาที่มีการกระทำผิดมากที่สุด คือ การขับรถย้อนศร รวม 53,403 ราย ส่วนประเภทรถจักรยานยนต์ที่กระทำผิด แบ่งเป็นรถจักรยานยนต์ทั่วไป 74,832 ราย, รถจักรยานยนต์เดลิเวอรี่ 10,869 ราย และรถจักรยานยนต์สาธารณะ 4,718 ราย
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจนครบาลร่วมกับบริษัทขนส่งอาหาร อบรมสมาชิก สร้างการรับรู้ และเสริมทักษะการขับขี่ที่ปลอดภัยไปแล้ว และจะทยอยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังประสานข้อมูลร่วมกัน หากพบผู้ขับขี่อย่างไม่ปลอดภัย จะส่งข้อมูลให้บริษัทขนส่งอาหารดำเนินการลงโทษภายในต่อไป.-สำนักข่าวไทย