รัฐสภา 7 ส.ค. – คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ยังให้สืบสวนยังอยู่ภายใต้สตช. ตามเดิม เช่นเดียวกับงานสอบสวนแต่ให้เป็นอิสระไม่ถูกครอบงำ
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) แถลงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจว่า คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา นำเสนอประเด็นปัญหาเรื่องการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการสอบสวนของตำรวจ กำหนดให้ การสืบสวน ยังคงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตามเดิม แต่การสอบสวนที่จะนำไปสู่การฟ้องคดี ให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างของ สตช. แต่ทำงานเป็นอิสระจากผู้บังคับบัญชา ส่วนกลไกที่จะทำให้การทำงานของฝ่ายสืบสวนไม่ถูกครอบงำจากสตช. อย่างแท้จริงเป็นเรื่องที่คณะอนุกรรมการต้องไปหาวิธี
โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ กล่าวว่า ยังเพิ่มอำนาจให้พนักงานสอบสวน สามารถสรุปสำนวน ทำความเห็น สั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องไปยังพนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการสอบสวนต่อไปได้ และเตรียมยกระดับพนักงานสอบสวนให้มีความชำนาญด้านวิชาชีพ เพิ่มคุณสมบัติ กำหนดหลักประกันความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ สร้างกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลระหว่างพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการให้มีความชัดเจนมากขึ้น ที่สำคัญต้องกำหนดระยะเวลาการ สืบสวน สอบสวน แต่ละคดีให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้คดีความหมดอายุ
นายสมคิด กล่าวว่า ในวันพุธที่ 16 สิงหาคมนี้ คณะอนุกรรมการทุกชุดจะต้องนำเสนอผลการศึกษาปัญหาแต่ละด้านที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้ที่ประชุม คณะกรรมการปฏิรูปชุดใหญ่ได้พิจารณา ต่อไป และคาดว่าพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานกรรมการปฏิรูปตำรวจ จะแถลงผลการประชุมด้วยตนเองโดยเฉพาะแนวทางของอนุกรรมการที่ได้ข้อสรุปเบื้องต้นทั้งหมด
นายสมคิด กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ได้ เปิดช่องทางการรับฟังความคิดเห็น จากประชาชน ทางเว็บไซต์ http://thaipolicereform.org หรือ www.facebook.com/thaipolicereform และตู้ ป.ณ.193 พร้อมทั้งตั้งกล่องรับฟังความคิดเห็น ตามจุดสำคัญต่าง ๆ ทั่วประเทศ ก่อนเตรียมลงพื้นที่สำคัญ 5 จุด เพื่อรับฟังความเห็นจากประชาชน และ เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย.-สำนักข่าวไทย