องอาจ เสนอ ป.ป.ช.อุทธรณ์คดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ปี 2551

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เสนอ ป.ป.ช.ยื่นอุทธรณ์คดีสลายม็อบพันธมิตรฯ ปี 51 ระบุเมื่อคำพิพากษาถึงที่สุด จะทำให้มีข้อยุติ และเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนในสังคม 


นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะใช้สิทธิ์อุทธรณ์คำพิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ยกฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปี 2551 หรือไม่ว่า เมื่อมีคำพิพากษาออกมาย่อมมีผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้นการที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ตาม มาตรา 195 เปิดโอกาสให้มีการอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ภายใน 30 วัน ทางป.ป.ช.ก็ควรใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญอุทธรณ์เพื่อให้มีคำพิพากษาที่ถึงที่สุดอันจะทำให้ทุกฝ่ายยอมรับในคำพิพากษาตามกระบวนการยุติธรรม

นายองอาจ กล่าวว่า การใช้สิทธิ์อุทธรณ์ของป.ป.ช.น่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่างๆ ทั้งเพื่อรักษาสิทธิ์ที่พึงมีตามรัฐธรรมนูญ  เพื่อให้ทุกภาคส่วนในสังคมหมดสิ้นข้อสงสัย เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมที่ถูกกระทำจนได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต และฝ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำทั้งระดับผู้บริหารประเทศ และผู้ปฏิบัติงาน และเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด ไม่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยต่อการทำหน้าที่ของป.ป.ช.เพราะที่ผ่านมา ป.ป.ช.ชุดที่มี พล.ต.อ.        วัชรพล ประสารราชกิจ เป็นประธาน ได้มีมติเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2559 ว่า ป.ป.ช.มีสิทธิ์ขอถอนฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จนมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาถอนฟ้อง เพื่อพิจารณาหลักฐานใหม่ตามที่จำเลยยื่นเรื่องขอความเป็นธรรม ถึงแม้ในที่สุดป.ป.ช.ไม่ได้ถอนฟ้อง แต่การพิจารณาจะถอนฟ้องคดีของป.ป.ช.ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร


“การยื่นอุทธรณ์ของป.ป.ช.จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างมาก เพราะเมื่อมีคำพิพากษาที่ถึงที่สุดออกมาจะทำให้เกิดข้อยุติ และเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนในสังคม นอกจากนั้นยังทำให้เห็นว่าป.ป.ช.ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญอย่างเต็มที่ ช่วยทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อป.ป.ช.แต่ถ้าป.ป.ช.ไม่ยื่นอุทธรณ์ เชื่อว่าผู้คนในสังคมจะเกิดคำถาม เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการทำหน้าที่ของป.ป.ช.ซึ่งไม่เกิดผลดีต่อป.ป.ช.และสังคมโดยรวมแต่อย่างใด”นายองอาจ กล่าว .-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว