สมุทรปราการ 3 ส.ค.-สังคมออนไลน์แห่แชร์คลิปวิจารณ์หนัก สาวขี่จักรยานยนต์ขึ้นทางด่วน ญาติเผยมีอาการป่วย
จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “tum na pattalung” โพสต์คลิปที่มีความความยาว 1.06 นาที ผู้หญิงคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นไปบนทางด่วนบูรพาวิถี สายบางนา-ชลบุรี โดยในคลิปจะเห็นว่าผู้หญิงคนดังกล่าวขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูง น่าหวาดเสียว และที่สำคัญกว่านั้นคือในคลิปมีเจ้าหน้าที่จราจรของทางด่วนฯ พยายามขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม และพยายามส่งสัญญาณให้จอด แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่สนใจ ซ้ำยังบิดเร่งเครื่องรถจักรยานยนต์แซงเจ้าหน้าที่ขี่ปาดเปลี่ยนเลนด้วยความเร็วสูง หลังจากเกิดเหตุ ทางผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง ศูนย์จัดการจราจรทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวัดศรีเอี่ยม ถ.บางนาตราด เขตบางนา กทม. พบกับผู้หญิงที่ปรากฏในคลิปและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ขี่ขึ้นไปบนทางด่วน เบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อว่าชื่ออะไร มีอาการคล้ายคนสติไม่สมประกอบ ถามตอบไม่รู้เรื่อง แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ค้นประวัติจากทะเบียนรถจักรยานยนต์ จนสามารถติดต่อพ่อของเธอได้ ซึ่งพักอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ให้มารับตัวผู้หญิงคนนี้กลับไปดูแล นอกจากนี้ ยังมีทางเจ้าหน้าที่ของศูนย์จัดการจราจรฯ หลายคนคอยดูแลผู้หญิงคนนี้ เพราะว่าหลังจากเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเธอลงมาที่ศูนย์จัดการจราจร เธอได้วิ่งหนีออกไปตามถนนไกลกว่า 3 กม. ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องวิ่งไล่ตาม แต่โชคดีตามกลับมาได้โดยไม่มีอันตราย
คุณรังสรรค์ ศุกะกาญจน เจ้าหน้าที่จรจรทางด่วนฯ ผู้ที่ขับรถติดตามผู้หญิงคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ขณะที่กำลังตระเวนตรวจความเรียบร้อยการจราจรอยู่บนทางด่วน ได้ยินวิทยุว่ามีรถจักรยานยนต์ขี่ขึ้นทางด่วนฯ จากด่านบางปะกง มุ่งหน้าเข้า กทม. ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปดักตามเส้นทางที่รถจักรยานยนต์ที่รับแจ้งจะต้องขี่ผ่านมา กระทั่งพบผู้หญิงคนดังกล่าวขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง ตนจึงขี่ติดตามและพยายามส่งสัญญาณให้จอดชิดซ้าย แต่ผู้ขี่กลับไม่จอดซ้ำยังเร่งเครื่องหนี ตนจึงคิดว่าน่าจะไม่ใช่คนปกติ จึงพยายามขี่รถจักรยานยนต์บล็อกให้เธออยู่ในเลนซ้ายสุด กระทั่งถึงทางเบี่ยงลงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อผู้หญิงคนนี้ถูกบล็อกให้ขี่ลงจากทางด่วนฯ ที่ด่านทางลงสนามบินสุวรรณภูมิ เธอก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปอีกหลาย กม. จนกระทั่งเกือบถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ทางเจ้าหน้าที่จึงจะสามารถหยุดรถ และเรียกกำลังมาช่วยคุมตัวเธอไว้ได้ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อพ่อของผู้หญิงคนนี้มารับตัวไปดูแลที่บ้านของเธอ โดยแนะนำให้พาไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้ก่อนที่ สภ.ท่าอากาศยาน เพราะเป็นท้องที่ ที่สามารถควบคุมตัวผู้หญิงคนนี้ไว้ได้.-สำนักข่าวไทย