นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือร่วมกับ ผู้บริหารของกลุ่มบริษัทหัวเหว่ยที่สำนักงานใหญ่ เมืองเชินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าการสนับสนุนจากหัวเหว่ยที่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ช่วยต่อยอดผู้ประกอบการสตาร์อัพ ของไทยได้มาก และเพื่อให้โครงการสตาร์อัพของไทยเป็นที่รู้จักของชาวโลก ได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกันเตรียมให้มีการจัดงาน “ไทยแลดน์ดิจิทัลบิ๊กแบง” ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2560 เพื่อดึงธุรกิจดิจิทัลชั่นนำของโลกมาจัดแสดงเทคโนโลยีโลกแห่งอนาคตไร้พรมแดน โดยเฉพาะหัวเหว่ยจะนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่ผลิตทั้งของตนเองและให้บริษัทชั้นนำของโลกนำมาจัดแสดงด้วย ขณะที่อาลีบาบาจะนำธุรกิจอีคอมเมิร์ซในหลายสาขาที่ดูแลอยู่มาร่วมจัดแสดง
ทั้งนี้ ไทยเชื่อมั่นว่าการดึงทั้งอาลีบาบาที่เชี่ยวชาญธุรกิจอีคอมเมิร์ซและหัวเหว่ยที่เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี่ชั้นสูงจะทำให้ภาคธุรกิจของไทยในสตาร์อัพและกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยร่วมถึงกลุ่มเอสเอ็มอีจะมีความเข้มแข็งและกว่าที่จะลงทุนหรือปรับแนวทางการบริหารให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ดังนั้น ในปี 2560 จะเป็นปีที่ประเทศไทยจะประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ ว่าไทยจะก้าวสู่ประเทศที่น่าสนใจ เข้ามาลงทุนเพิ่มด้านการค้าและเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย สามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ามาลงทุน ผ่านการเชื่อมโยงทางเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยงานใหญ่ 3 งาน คือ งานวันส่งเสริมการลงทุนไทย งานไทยแลดน์ดิจิทัลบิ๊กแบงและงานสตาร์ตอัพ ไทยแลนด์ 2017
“มั่นใจการดึงทั้งอาลีบาบา ซึ่งเป็นกลุ่มอีคอมเมิร์ซรู้จักของคนทั่งโลกและบริษัทหัวเหว่ยเป็นบริษัทที่เชื่อว่าจะเป็นบริษัทอันดับ 1 ด้านเทคโนโลยีสื่อสารได้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้าจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อไทยจนไทยเป็นประตูการค้าและการลงทุนในภูมิภาคนี้ได้” นายสมคิดกล่าว.-สำนักข่าวไทย