กรุงเทพฯ 29 ต.ค.-“สุวพันธุ์” ชี้แจงกรณียกเลิกการแจกบัตรคิวให้ประชาชนในการเข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพ แต่เปลี่ยนใช้การเข้าเป็นกลุ่ม เพื่อความสะดวก และทำให้ประชาชนเข้าสักการะได้มากขึ้น ระบุการปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ขอความร่วมมือสื่อฯ ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวไทยชี้แจงถึงการยกเลิกบัตรคิวในการเข้ากราบถวายสักการะเบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้ (29 ต.ค.) ว่า เป็นการปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยดูจากสถานการณ์เป็นหลัก ซึ่งวันนี้เป็นวันแรก จึงทำให้มีประชาชนเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการใช้วิธีแจกบัตรคิว 1 หมื่นใบ จึงไม่มีเหมาะกับสถานการณ์ เนื่องจากประชาชนที่เดินทางมา ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัด ทุกคนก็มีความตั้งใจและต้องการที่จะเข้าไปกราบถวายสักการะพระบรมศพ
“การยกเลิกบัตรคิว และเปลี่ยนมาใช้วิธีการให้เข้าไปเป็นกลุ่ม จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าไปสักการะพระบรมศพ ได้เป็นจำนวนมากขึ้น รวดเร็วขึ้น และบริหารจัดการได้ดีขึ้น ซึ่งตรงกับสิ่งที่รัฐบาลต้องการ คือ ให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะพระบรมศพมากที่สุด ทั้งนี้ พร้อมยืดหยุ่นปรับหลักเกณฑ์ วิธีการ การอำนวยความสะดวก เรื่องการแต่งกาย เวลาที่จะให้ประชาชนเข้าไปสักการะพระบรมศพ ส่วนการจัดระเบียบ ด้านการจราจร ยังคงเป็นไปตามแผนเดิม และยังไม่มีปัญหา” นายสุวพันธุ์ กล่าว
นายสุวพันธุ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันนี้ จะเก็บข้อมูล ทั้งจำนวนผู้ที่เข้าสักการะพระบรมศพ และคนที่เดินมายังสนามหลวง ปัญหาอุปสรรค ข้อเสนอแนะ ทั้งการจัดระเบียบ การอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ จะนำเข้าที่ประชุม ศตส.ในวันพรุ่งนี้ (30 ต.ค.) เพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจ
“ขณะเดียวกันขอความร่วมมือสื่อมวลชนชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงเหตุที่ไม่สามารถแจกบัตรคิวได้ว่าเป็นปรับเพื่อความสะดวกและตามโอกาสที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนเข้าไปสักการะพระบรมศพได้มากที่สุด และอยากให้ทำความเข้าใจ การเปิดเข้าไปสักการะพระบรมศพ ยังเปิดให้เข้าสักการะอย่างไม่มีกำหนด ดังนั้นขอให้ประชาชนทยอยเดินทางมา และผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่แล้ว ขอให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และหากใครที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ควรพกยาประจำตัวติดตัวมาด้วย” นายสุวพันธุ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย