กรุงเทพฯ 21 ก.ค.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุผู้ต้องหาคดีอาวุธสงครามที่ จ.สระแก้ว ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสร้างสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ขณะที่ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รับมอบตัวและสอบสวนนายพัชระ ใจเที่ยง หนึ่งใน 6 ผู้ต้องหาคดีอาวุธสงคราม จ.สระแก้ว จากตำรวจภูธรภาค 5 หลังหลบหนีและถูกจับได้ที่ จ.เชียงใหม่ มาดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปราม เพื่อทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่หลักฐานที่ตำรวจมี ระบุว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้ว่าจ้างให้เครือข่ายลักลอบลำเลียงอาวุธสงครามจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาฝั่งไทย ซึ่งจากการสอบสวนอ้างว่า เคยลำเลียงอาวุธสงครามเข้าไทยมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่พบข้อมูลว่าปลายทางอยู่ในประเทศ หรือประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทางการข่าวยังไม่พบข้อมูลว่าจะใช้ก่อเหตุในประเทศ แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ได้กำชับให้เร่งขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ และร่วมกันพกปืนไปในที่สาธารณะ
สำหรับคดีนี้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจอรัญประเทศสกัดจับผู้ต้องหาคดีค้าอาวุธสงคราม บริเวณปั๊มน้ำมัน ริมถนนสาย 359 หมู่ 7 ต.สระขวัญ อ.เมือง จ.สระแก้ว พร้อมของกลางเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 82 มม. จำนวน 2 กระบอก เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 81 มม. จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดขนาด 82 มม. จำนวน 3 ลูก รถยนต์ 3 คัน ร่วมกับพวก โดยใช้รถตู้สาธารณะ ทะเบียน 14-2037 กรุงเทพมหานคร สายมีนบุรี-รังสิต ลำเลียงออกจากพื้นที่ จ.สระแก้ว.-สำนักข่าวไทย