ผอ.แจงปมดราม่าโกงเงินเด็กพิการทีมวีลแชร์แดนซ์

พิษณุโลก 14 ก.ค.-ผอ.โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ชี้แจงกรณีดราม่าการจัดการเงินรางวัล 10 ล้านบาท ที่ทีมวีลแชร์แดนซ์ชนะเลิศในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ว่า การจัดสรรเงินเป็นไปตามมติคณะกรรมการ 



หลังจากมีการนำเสนอข้อมูลผ่านเพจดัง ถึงการจัดการเงินรางวัลจำนวน 10 ล้านบาท ที่ทีมวีลแชร์แดนซ์ของเด็กนักเรียนพิการของโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ซึ่งชนะเลิศในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ ว่ามีการจัดการไม่เหมาะสมโดยจัดสรรให้เด็กนักเรียนในทีม 8 คน เพียงคนละ 5 แสนบาท และแสดงความสงสัยว่าเงินที่เหลือถูกนำไปใช้อย่างไร 


นางพวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ชี้แจงว่า การจัดสรรเงินรางวัลเป็นไปตามมติคณะกรรมการ ซึ่งมีทั้งประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียนที่เข้าแข่งขันและผู้ปกครอง เนื่องจากส่งทีมแข่งขันในนามมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สาขาโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โดยทางรายการได้มอบเงินรางวัล 10 ล้านบาทให้ทางมูลนิธิเพื่อไม่ต้องหักภาษี เพราะหากมอบให้กับบุคคลเงินรางวัลจะถูกหักภาษีถึง 4.7 ล้านบาท จะเหลือเงิน 5.3 ล้านบาท การมอบให้มูลนิธิทำให้ได้รับเงินเต็มจำนวน

การจัดสรรเงินแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกมอบให้เด็กนักเรียนที่เข้าแข่งขัน 8 คน คนละ 5 แสนบาท แต่แบ่งจ่ายปีละ 1 แสนบาท ทุกวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อให้ใช้เป็นทุนการศึกษา

ส่วนที่ 2 นำเงิน 10 ล้านบาทไปซื้อสลากออมสิน ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ต่อปี และกรรมการมูลนิธิกู้เงินออกมา 9.5 ล้านบาท นำเงินเข้ากองทุนสวัสดิการครูและบุคคลากรของภายใต้การดูแลของมูลนิธิ ให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี จะได้ดอกเบี้ยเงินกู้ราวปีละ 1 ล้านบาท


ส่วนที่ 3นำรายได้จากดอกเบี้ยที่เหลือเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการดรงเรียนศรีสังวาลย์ เพื่อใช้พัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านต่างๆ เช่นเดียวกับทีมวีลแชร์แดนซ์ที่ได้รับการส่งเสริมจากกองทุนนี้

ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ยังยืนยันว่า การบริหารเงินในลักษณะนี้จะทำให้เด็กพิการได้ประโยชน์ และเงิน 10 ล้านบาทยังคงอยู่ในรูปของสลากออมสิน พร้อมบอกว่าการได้รับข้อมูลทางด้านเดียว และนำไปเสนอในโลกออนไลน์ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง เตรียมฟ้องหมื่นประมาทเพจดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่โพสต์หรือแชร์ข้อความที่ทำให้โรงเรียนเสียหายด้วย

โดยเมื่อปลายปี 2559 ครูและเด็กนักเรียนพิการโรงเรียนศรีสังวาลย์ กว่า 100คน ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ หลังหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นนำเสนอข่าวโรงเรียนโกงเงินรางวัล โดยทางมูลนิธิและโรงเรียนยืนยันความโปร่งใสการจัดการเงินรางวัลดังกล่าวมาครั้งหนึ่งแล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 77/4 ม.9 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เปิดเป็นร้านขายข้าวแกง 10 บาท อยู่ริมถนน พิษณุโลก – หล่มสัก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้พบกับ นางบัวทัน บุญมี อายุ 50 ปี และ นางวันนา ทิติดำรงเวทรช์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่และป้าของนายทัศนัย บุญมี หรือน้องเต้ อายุ 15 ปี เด็กนักเรียนโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 1 ใน 8 เด็กนักเรียนพิการ แชมป์ Thailand’s Got Talent Season 4 แต่ไม่พบ น้องเต้ เนื่องจากไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อรักษาแผลกดทับที่โรงพยาบาลวังทอง

นางวันนา ผู้เป็นป้า กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้มีการนำเรื่องราวน้องเต้ ไปลงในเพจดังกล่าว เพียงแต่เมื่อวานมีคนโทรมาจากเพจนี้ว่าจะดำเนินเรื่องอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องถามน้องเต้ เพราะเท่าที่ทราบน้องยังตั้งใจอยากกลับเรียนอยู่ แต่หลังจากการแข่งขันที่ไม่ได้กลับไปเรียนเพราะแผลกดทับที่บริเวณก้นไม่หาย ต้องคอยหมั่นไปรักษาและดูแล ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่าย ฐานะทางบ้านก็ลำบาก  มีรายได้แค่จากการขายข้าวแกงเท่านั้น ที่เลี้ยงครอบครัวตั้ง 11  คน แต่หลังจากที่น้องไม่ได้ไปเรียนมา 3 ปี แล้วก็หวั่นว่าเงินที่ได้จากการแข่งขันที่เหลือจะได้ไม่ครบ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลวังทอง จ.พิษณุโลก ได้พบกับ นางประนอม จันทร์อินทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นย่า และนายทัศนัย บุญมี หรือน้องเต้ กำลังรอรับการตรวจจากแพทย์ น้องเต้ เล่าว่าหลังจากการแข่งขันThailand’s Got Talent รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 57 ตนเองก็ได้กลับมารักษาตัวที่ จ.พิษณุโลก ทันที เนื่องจากเป็นแผลกดทับที่ก้นด้านซ้ายอย่างรุนแรงและไม่ได้กลับไปเรียนเป็นเวลา 3 ปีแล้ว สำหรับรางวัลที่ได้ทางโรงเรียนแบ่งให้ผู้ที่แข่งขันคนละ 500,000 บาท โดยจ่ายเป็นงวด งวดละ 100,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี  ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ให้เงินมาแล้วเป็นจำนวน 3 งวด ในทุกเดือนธันวาคม ของทุกปีก็จะไปรับเงินที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะทำการโอนเข้าบัญชีชื่อของน้องเต้ แต่ทางอาจารย์จะเป็นผู้เก็บบัญชีธนาคารไว้ ซึ่งใจอยากกลับเรียนต่อ แต่แผลไม่หายปกติจึงยังไม่สามารถกลับไปเรียนได้ 

ด้าน นางประนอม ย่าของน้องเต้ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นข่าวขึ้นมาไปลงเพจ เพียงแต่มีคนมากินข้าวแกงที่ร้าน ก็ได้คุยกันแล้วก็เล่าว่าเห็นน้องเต้ไหม เคยเป็นแชมป์Thailand’s Got Talent ด้วย ชายคนดังกล่าวก็ให้ความสนใจบอกว่าอยากช่วยเหลือ และได้ขอเบอร์โทรติดต่อ จนกระทั่งเมื่อวานมีคนโทรมาสอบถามหลายคน ตั้งแต่เที่ยง รวมทั้งเพจดังกล่าวด้วย สำหรับเรื่องเงินก็ได้เล่าไปว่าหลังเป็นแชมป์ได้เงินมาทุกปี ปีละ 1 แสนเข้าบัญชีน้องเต้ แต่ช่วงที่น้องเต้ป่วย เคยไปขอเบิกเงินมารักษา แต่ก็ไม่ให้เบิก ที่จริงอยากให้ทางโรงเรียนเห็นใจด้วย แต่ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย