ผอ.แจงปมดราม่าโกงเงินเด็กพิการทีมวีลแชร์แดนซ์

พิษณุโลก 14 ก.ค.-ผอ.โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ชี้แจงกรณีดราม่าการจัดการเงินรางวัล 10 ล้านบาท ที่ทีมวีลแชร์แดนซ์ชนะเลิศในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ว่า การจัดสรรเงินเป็นไปตามมติคณะกรรมการ 



หลังจากมีการนำเสนอข้อมูลผ่านเพจดัง ถึงการจัดการเงินรางวัลจำนวน 10 ล้านบาท ที่ทีมวีลแชร์แดนซ์ของเด็กนักเรียนพิการของโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ซึ่งชนะเลิศในรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนท์ ว่ามีการจัดการไม่เหมาะสมโดยจัดสรรให้เด็กนักเรียนในทีม 8 คน เพียงคนละ 5 แสนบาท และแสดงความสงสัยว่าเงินที่เหลือถูกนำไปใช้อย่างไร 


นางพวงทอง ศรีวิลัย ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ ชี้แจงว่า การจัดสรรเงินรางวัลเป็นไปตามมติคณะกรรมการ ซึ่งมีทั้งประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะครู นักเรียนที่เข้าแข่งขันและผู้ปกครอง เนื่องจากส่งทีมแข่งขันในนามมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สาขาโรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ โดยทางรายการได้มอบเงินรางวัล 10 ล้านบาทให้ทางมูลนิธิเพื่อไม่ต้องหักภาษี เพราะหากมอบให้กับบุคคลเงินรางวัลจะถูกหักภาษีถึง 4.7 ล้านบาท จะเหลือเงิน 5.3 ล้านบาท การมอบให้มูลนิธิทำให้ได้รับเงินเต็มจำนวน

การจัดสรรเงินแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกมอบให้เด็กนักเรียนที่เข้าแข่งขัน 8 คน คนละ 5 แสนบาท แต่แบ่งจ่ายปีละ 1 แสนบาท ทุกวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อให้ใช้เป็นทุนการศึกษา

ส่วนที่ 2 นำเงิน 10 ล้านบาทไปซื้อสลากออมสิน ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยร้อยละ 2.7 ต่อปี และกรรมการมูลนิธิกู้เงินออกมา 9.5 ล้านบาท นำเงินเข้ากองทุนสวัสดิการครูและบุคคลากรของภายใต้การดูแลของมูลนิธิ ให้สมาชิกกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 12 ต่อปี จะได้ดอกเบี้ยเงินกู้ราวปีละ 1 ล้านบาท


ส่วนที่ 3นำรายได้จากดอกเบี้ยที่เหลือเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการดรงเรียนศรีสังวาลย์ เพื่อใช้พัฒนาเด็กที่มีความสามารถพิเศษด้านต่างๆ เช่นเดียวกับทีมวีลแชร์แดนซ์ที่ได้รับการส่งเสริมจากกองทุนนี้

ผู้อำนวยการโรงเรียนศรีสังวาลย์ยังยืนยันว่า การบริหารเงินในลักษณะนี้จะทำให้เด็กพิการได้ประโยชน์ และเงิน 10 ล้านบาทยังคงอยู่ในรูปของสลากออมสิน พร้อมบอกว่าการได้รับข้อมูลทางด้านเดียว และนำไปเสนอในโลกออนไลน์ทำให้โรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง เตรียมฟ้องหมื่นประมาทเพจดังกล่าว รวมทั้งผู้ที่โพสต์หรือแชร์ข้อความที่ทำให้โรงเรียนเสียหายด้วย

โดยเมื่อปลายปี 2559 ครูและเด็กนักเรียนพิการโรงเรียนศรีสังวาลย์ กว่า 100คน ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ หลังหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นนำเสนอข่าวโรงเรียนโกงเงินรางวัล โดยทางมูลนิธิและโรงเรียนยืนยันความโปร่งใสการจัดการเงินรางวัลดังกล่าวมาครั้งหนึ่งแล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 77/4 ม.9 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้เปิดเป็นร้านขายข้าวแกง 10 บาท อยู่ริมถนน พิษณุโลก – หล่มสัก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้พบกับ นางบัวทัน บุญมี อายุ 50 ปี และ นางวันนา ทิติดำรงเวทรช์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นแม่และป้าของนายทัศนัย บุญมี หรือน้องเต้ อายุ 15 ปี เด็กนักเรียนโรงเรียนศรีสังวาลย์ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 1 ใน 8 เด็กนักเรียนพิการ แชมป์ Thailand’s Got Talent Season 4 แต่ไม่พบ น้องเต้ เนื่องจากไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อรักษาแผลกดทับที่โรงพยาบาลวังทอง

นางวันนา ผู้เป็นป้า กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าได้มีการนำเรื่องราวน้องเต้ ไปลงในเพจดังกล่าว เพียงแต่เมื่อวานมีคนโทรมาจากเพจนี้ว่าจะดำเนินเรื่องอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องถามน้องเต้ เพราะเท่าที่ทราบน้องยังตั้งใจอยากกลับเรียนอยู่ แต่หลังจากการแข่งขันที่ไม่ได้กลับไปเรียนเพราะแผลกดทับที่บริเวณก้นไม่หาย ต้องคอยหมั่นไปรักษาและดูแล ซึ่งก็เป็นค่าใช้จ่าย ฐานะทางบ้านก็ลำบาก  มีรายได้แค่จากการขายข้าวแกงเท่านั้น ที่เลี้ยงครอบครัวตั้ง 11  คน แต่หลังจากที่น้องไม่ได้ไปเรียนมา 3 ปี แล้วก็หวั่นว่าเงินที่ได้จากการแข่งขันที่เหลือจะได้ไม่ครบ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพยาบาลวังทอง จ.พิษณุโลก ได้พบกับ นางประนอม จันทร์อินทร์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นย่า และนายทัศนัย บุญมี หรือน้องเต้ กำลังรอรับการตรวจจากแพทย์ น้องเต้ เล่าว่าหลังจากการแข่งขันThailand’s Got Talent รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 57 ตนเองก็ได้กลับมารักษาตัวที่ จ.พิษณุโลก ทันที เนื่องจากเป็นแผลกดทับที่ก้นด้านซ้ายอย่างรุนแรงและไม่ได้กลับไปเรียนเป็นเวลา 3 ปีแล้ว สำหรับรางวัลที่ได้ทางโรงเรียนแบ่งให้ผู้ที่แข่งขันคนละ 500,000 บาท โดยจ่ายเป็นงวด งวดละ 100,000 บาท เป็นระยะเวลา 5 ปี  ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ให้เงินมาแล้วเป็นจำนวน 3 งวด ในทุกเดือนธันวาคม ของทุกปีก็จะไปรับเงินที่ จ.เชียงใหม่ โดยจะทำการโอนเข้าบัญชีชื่อของน้องเต้ แต่ทางอาจารย์จะเป็นผู้เก็บบัญชีธนาคารไว้ ซึ่งใจอยากกลับเรียนต่อ แต่แผลไม่หายปกติจึงยังไม่สามารถกลับไปเรียนได้ 

ด้าน นางประนอม ย่าของน้องเต้ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่ทราบว่าเป็นข่าวขึ้นมาไปลงเพจ เพียงแต่มีคนมากินข้าวแกงที่ร้าน ก็ได้คุยกันแล้วก็เล่าว่าเห็นน้องเต้ไหม เคยเป็นแชมป์Thailand’s Got Talent ด้วย ชายคนดังกล่าวก็ให้ความสนใจบอกว่าอยากช่วยเหลือ และได้ขอเบอร์โทรติดต่อ จนกระทั่งเมื่อวานมีคนโทรมาสอบถามหลายคน ตั้งแต่เที่ยง รวมทั้งเพจดังกล่าวด้วย สำหรับเรื่องเงินก็ได้เล่าไปว่าหลังเป็นแชมป์ได้เงินมาทุกปี ปีละ 1 แสนเข้าบัญชีน้องเต้ แต่ช่วงที่น้องเต้ป่วย เคยไปขอเบิกเงินมารักษา แต่ก็ไม่ให้เบิก ที่จริงอยากให้ทางโรงเรียนเห็นใจด้วย แต่ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

บ.เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงเหตุไฟไหม้เรือด่วน คาดไฟฟ้าลัดวงจร

14 ก.ย. – บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา แถลงการณ์เหตุเพลิงไหม้เรือด่วน มีเรือได้รับความเสียหายหนัก 2 ลำ เสียหายเล็กน้อย 1 ลำ และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสีย คาดสาเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 18.36 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือด่วนที่จอดเรียงติดกัน จำนวน 3 ลำ โดยมีเรือที่ได้รับความเสียหายหนักจำนวน 2 ลำ และได้รับความเสียหายเล็กน้อย 1 ลำ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่เรือได้จอดเลิกงานตามปกติแล้ว บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ไม่มีผู้โดยสารหรือพนักงานอยู่บนเรือ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียแต่อย่างใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าที่ต่อจากท่าเรือไปชาร์จแบตเตอรี่ในเรือต้นเพลิงลัดวงจร โดยเรือทั้งหมดได้เข้ามาจอดเลิกงานเวลา 18.15 น. และไม่ได้อยู่ระหว่างให้บริการ เมื่อเกิดเหตุ พนักงานประจำพื้นที่ได้เข้าดับเพลิงเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งประสานงานกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ และสามารถควบคุมเพลิงได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียดอย่างรอบคอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อวางมาตรการป้องกันที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในอนาคต บริษัทฯ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น […]

เพื่อไทยขอบคุณทุกคะแนนเสียง หลัง “สง่า” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – พรรคเพื่อไทย ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน หลังผลเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ “สง่า” ชนะขาด “สุทัศน์” จากพรรคประชาชน เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความภายหลังผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 อย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายสง่า พรมเมือง ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย หมายเลข 1 ชนะขาดนายสุทัศน์ ยาละ ผู้สมัครของพรรคประชาชน หมายเลข 2 โดยระบุว่า พรรคเพื่อไทย ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชน ที่ให้ความไว้วางใจเลือกผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เชียงราย จากพรรคเพื่อไทย ทีมงานทุกคน พร้อมเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ เพื่อชีวิตที่ดี เพื่อไทยทุกคน.-316-สำนักข่าวไทย

“เพื่อไทย” คว้าชัยเลือกตั้งซ่อม สส. เขต 7 เชียงราย

เชียงราย 14 ก.ย. – ผลคะแนนเลือกตั้ง สส. เขต 7 เชียงราย อย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.39 น. “สง่า พรมเมือง” พรรคเพื่อไทย คะแนนนำโด่งทิ้งคู่แข่ง “สุทัศน์ ยาละ” พรรคประชาชน กว่า 2 หมื่นคะแนน ขณะที่เพจเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ขอบคุณประชาชนเทคะแนนให้ “สง่า” คว้าชัย วันที่ 14 ก.ย.68 เวลา 19.39 น. ที่ศูนย์รวมคะแนนประจำเขตเลือกตั้งที่ 7 อ.แม่จัน จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังปิดหีบลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. จากนั้นเริ่มนับคะแนน โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงราย รายงานเมื่อเวลา เวลา 19.39 น. พบว่า นายสง่า พรมเมือง […]

ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีที่ไม่เกี่ยวกับบัญชีม้า

กรุงเทพฯ 14 ก.ย. – ดีอีเร่งปลดล็อกระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แจงระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชี ยังคงทำธุรกรรมได้ปกติ ส่วนบัญชีม้าจะไม่ปลดล็อกเด็ดขาด พร้อมแจงการอายัดบัญชีทำได้เฉพาะกรณีที่มีหมายจากตำรวจเท่านั้น ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมการดำเนินมาตรการเพิกถอนการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราวในบัญชีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ซึ่งเป็นผลมาจากการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ เปิดเผยว่า ตามที่มีกรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว โดยจะมีการระงับจำนวนเงินเฉพาะที่โอนออกไปจากบัญชีต้องสงสัยเท่านั้น ไม่ได้ระงับทั้งบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งบัญชีธนาคารนั้นยังคงสามารถทำธุรกรรมได้อยู่ตามปกติ ในส่วนของการอายัดบัญชีเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการอายัดบัญชี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยมีหมายอายัดเท่านั้น ทั้งนี้ […]