ครอบครัว “น้องเต้” บอกปัดพ่อหนุ่ม 16 ร่วมงานฌาปนกิจ

นครสวรรค์ 4 ต.ค. – ครอบครัว “น้องเต้” บัณฑิตวิศวะเกียรตินิยม ที่ถูกเด็ก 16 ปี ขับรถฝ่าไฟแดงพุ่งชนเสียชีวิต ปฏิเสธให้พ่อผู้ต้องหาร่วมพิธีฌาปนกิจศพ และไม่พร้อมพูดคุย


วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่งานฌาปนกิจของนายธนพล หรือ “เต้” อายุ 24 ปี ที่ถูกเด็กวัย 16 ปี ขับบีเอ็มดับเบิลยูพุ่งฝ่าไฟแดงพุ่งชนจนเสียชีวิต พบว่าทางครอบครัว รวมถึงญาติสนิทเดินทางมาจัดงานเพื่อส่งน้องเต้เป็นวันสุดท้าย และยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้า โดยมีเพื่อนสนิทน้องเต้เดินทางจาก จ.นครราชสีมา มาร่วมพิธีนับ 10 คน โดยตอนแรกมีรายงานว่า จะมีบิดาของฝั่งคู่กรณี เป็นตัวแทนเดินทางมาขอขมาศพและพูดคุยแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต แต่ปรากฏว่าทางครอบครัวฝั่งผู้เสียชีวิตยังไม่พร้อมพูดคุยด้วย และได้บอกให้ฝั่งคู่กรณีเดินทางกลับไปก่อน โดยไม่ให้มาร่วมงาน เนื่องจากยังอยู่ในอาการเสียใจ และยังรับไม่ได้กับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นายธีรวัฒน์ สอนมาก ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. บิดาของหนุ่มที่ขับเก๋งชนน้องเต้เสียชีวิต ได้ติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่งที่รู้จักกัน โดยขอให้ประสานติดต่อไปยังครอบครัวของน้องเต้ เพื่อจะเดินทางเข้าไปกราบขอขมาศพ จากนั้นทางผู้ใหญ่บ้านที่ติดต่อ ก็ได้ติดต่อมาทางตนก่อนว่าจะนัดพบเจอกันที่หน้าวัด และพบว่า พ่อทางฝั่งของคู่กรณีได้เดินทางมาด้วยรถหรู SUV สีดำ พร้อมญาติผู้ชายอีก 1 คน ลงมาพูดคุยกับตนที่ให้ช่วยประสานติดต่อกับทางครอบครัวของน้องเต้


“ผมได้คุยกับเขาในเบื้องต้น บอกว่า เป็นตัวแทนของลูกเดินทางมาขอขมาน้องเต้ และจะพูดคุยเพื่อแสดงความเสียใจ ก่อนจะเจรจาในเรื่องของการช่วยเหลือในเบื้องต้น โดยวันนี้ทางฝั่งคู่กรณีได้เตรียมเงินมาเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 250,000 บาทก่อน แต่พอติดต่อประสานไปยังครอบครัวของน้องเต้ ปรากฏว่า ทางพ่อกับแม่เขายังไม่พร้อมจะพบ เพราะยังทำใจไม่ได้ พร้อมบอกให้ทางนั้นกลับไปก่อน ทางฝั่งคู่กรณี จึงเดินทางกลับไปโดยที่ไม่ได้เข้าร่วมงานฌาปนกิจ

พร้อมกับกล่าวด้วยว่า จริงๆ แล้ว ตั้งแต่วานนี้ (3 ต.ค.) ทางฝั่งของคู่กรณีได้ติดต่อผ่านตนมารอบหนึ่งแล้ว เพื่อให้ติดต่อครอบครัวน้องเต้ ในการเป็นประธานงานสวดอภิธรรมในคืนสุดท้าย แต่ทางครอบครัวน้องเต้ยังไม่พร้อมจะเจอ ส่วนทางฝั่งคู่กรณีที่ชนน้องเต้ ทราบว่าวันนี้ตั้งใจเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เข้าร่วมงาน

ด้าน “น้องฟลุ๊ค” เพื่อนของน้องเต้ที่เดินทางมาร่วมงานส่งเพื่อนในวันสุดท้าย เผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้รู้สึกเสียใจมากๆ ที่เพื่อนต้องมาด่วนจากไปทั้งที่ยังมีอนาคตไกล สามารถหาเลี้ยงดูครอบครัว และมีชีวิตเติบโตได้มากกว่านี้ ส่วนคู่กรณีที่ขับรถชนเพื่อนรักตนเสียชีวิต ก็อยากฝากร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจ ขอให้ดำเนินคดีกับฝ่ายนั้นให้ถึงที่สุด และขอให้ฝ่ายนั้น โปรดแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ แต่ตอนนี้ ตนก็ยังไม่เห็นเขาจะมารับผิดชอบอะไรเลย ตั้งแต่เกิดเหตุ ก็ยังไม่เห็นมีอะไร ส่วนวันนี้ ตนไม่ได้คาดหวังว่าคู่กรณีจะมา ถ้าจะแสดงความรับผิดชอบจริงๆ ก็ต้องมาตั้งแต่วันแรกแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นพิธีฌาปนกิจน้องเต้แล้ว ทางฝั่งพ่อกับแม่น้องเต้ แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า จะให้สัมภาษณ์หลังเลิกงาน แต่เกิดเปลี่ยนใจ ยังไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้