ตลท. 14 ก.ค. – หุ้นไทยลบ 1.62 จุด แกว่งตัวในกรอบแคบ รอดูผลประกอบการไตรมาส 2 ด้าน บล.แอล เอช ฟันด์ มองตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังดีขึ้น ตามการลงทุนภาครัฐ รายได้เกษตรฟื้น ส่งออกโต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดที่ระดับ 1,577.79 จุด ลดลง 1.62 จุด หรือร้อยละ 0.10 มูลค่าการซื้อขาย 34,740.29 ล้านบาท การซื้อขายดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ แตะจุดสูงสุดที่ 1,582.23 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,574.66 จุด
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบ รอติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2560 ของกลุ่มแบงก์ใหญ่ที่จะออกมาสัปดาห์หน้า หากแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และการตั้งสำรองต่ำลง ก็จะเป็นปัจจัยบวกทำให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปได้
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ กล่าวว่า ทิศทางการลงทุนช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเห็นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ดีขึ้น โดยภาวะตลาดหุ้นไทยขณะนี้เป็นช่วงที่เหมาะสมที่จะเริ่มทยอยซื้อสะสม เนื่องจากประเมินว่าผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่เติบโตต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านการลงทุนของภาครัฐ รายได้เกษตรกรที่ฟื้นตัว การส่งออกที่น่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ขายสุทธิ 491.88 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 468.76 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 389.44 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 363.32 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย