ทำเนียบฯ 14 ก.ค.- คณะกรรมการปฎิรูปตำรวจ ประชุมนัดที่สอง หารืออำนาจหน้าที่และเงินเดือนตำรวจ แต่ไร้ข้อสรุป สั่งอนุกรรมการด้านวิชาการศึกษาทุกข้อเสนอแยกเป็นหมวดหมู่ให้กรรมการชุดใหญ่ ย้ำ คณะกรรมการปฎิรูป ดำเนินการ 4 เรื่องหลัก อำนาจ หน้าที่ ,โครงสร้าง, การแต่งตั้งโยกย้าย และระบบการสอบสวน
นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการปฎิรูปตำรวจนัดที่ 2 ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้นำเสนอข้อมูลโครงสร้างและการบริหารงานบุคคลต่อที่ประชุม เช่น สตช. มีอัตรากำลังตำรวจทั้งหมด 300,000 นาย แต่ปัจจุบันมีบุคคลที่ได้รับการบรรจุเป็นตำรวจประมาณ 220,000 นาย ขาดอัตรากำลังอีกกว่า 80,000 นาย ซึ่งเป็นในส่วนของตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นอกจากนี้ สัดส่วนของตำรวจหญิงและตำรวจชาย ก็แตกต่างกันสูงมาก โดยตำรวจหญิงมีเพียงร้อยละ 7 ในขณะที่ตำรวจชาย มีถึงร้อยละ 93 ตำรวจชั้นสัญญาบัตรมีน้อยกว่าตำรวจชั้นประทวนคิดเป็นอัตราร้อยละ 30 ต่อ 70
โฆษกคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงการจัดโครงสร้างงานบุคคลและอำนาจหน้าที่ ซึ่งคณะกรรมการบางคนมองว่า ตำรวจมีอำนาจหน้าที่มากเกินไป สวนทางกับงบประมาณที่มีน้อย จึงเสนอให้แยกอำนาจบางอย่างออกไป เช่น ตำรวจจราจร ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจรถไฟ สามารถย้ายไปขึ้นตรงกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้หรือไม่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปใด ๆ ออกมา เช่นเดียวกับเรื่องงบประมาณของตำรวจ โดยเฉพาะสวัสดิการของตำรวจชั้นประทวน ที่ได้รับเงินเดือนน้อย รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนความเห็นอย่างกว้างขวาง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติเช่นกัน
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ในส่วนของคณะอนุกรรมการทั้ง 5 คณะขณะนี้ได้สมาชิกครบแล้ว และให้เริ่มทำงานได้ทันทีคู่ขนานไปกับคณะกรรมการชุดใหญ่ โดยในส่วนของคณะอนุกรรมการด้านวิชาการ ที่ประชุมมอบหมายให้ไปศึกษาข้อเสนอเรื่องการปรับโครงสร้างของตำรวจทั้งของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายคณิต ณ นคร และ สตช. เพื่อจัดเป็นหมวดหมู่แล้วนำไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศว่าต่างประเทศมีระบบการเมืองการปกครองและโครงสร้างตำรวจอย่างไร ก่อนนำเสนอให้กับคณะกรรมการต่อไป ขณะที่คณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นจะมีภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการด้วย ซึ่งมีรายชื่ออยู่แล้ว ทั้งนี้ ในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ได้กำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม ปี 2560
นายสมคิด กล่าวว่า คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ จะดำเนินการใน 4 เรื่องหลักคือ 1.อำนาจหน้าที่ของตำรวจ ที่จะกำหนดว่า หน้าที่ใดควรเป็นของตำรวจ และหน้าที่ใด ควรแยกออกไป 2 โครงสร้างของตำรวจที่จะกำหนดให้ตำรวจขึ้นตรงกับ สตช.เดิม หรือย้ายไปสังกัดหน่วยงานอื่น เช่น กระทรวงยุติธรรม และจังหวัด เป็นต้น 3. การแต่งตั้งโยกย้าย และ 4.ระบบการสอบสวน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นย่อยที่จะต้องทำเช่นกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งทั้งหมดต้องทำให้สัมฤทธิ์ผล เป็นการปฏิรูป 360 องศาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม คณะกรรมการจะประชุมอย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง คาดว่า เดือนสิงหาคม จะเห็นรูปร่างของการปฏิรูปตำรวจเกิดขึ้น ขณะที่การประชุมนัดต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหลังจากนั้นจะประชุมที่รัฐสภาเป็นการถาวร.-สำนักข่าวไทย