พม.11 ก.ค.-นักฟุตบอลเยาวชนจากสถานสงเคราะห์โครงการเพชรน้ำหนึ่งเข้ารับมอบเสื้อสามารถจาก รมว.พัฒนาสังคมฯ ก่อนเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลระหว่างเด็กกำพร้าจาก สถานสงเคราะห์ทั่วโลก ครั้งที่ 5 ที่โปแลนด์
นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า เช้าวันนี้(11ก.ค.)ที่ห้องประชุมชั้น 9 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พม.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม.ได้ให้นายวิทัศน์ เตชะบุญ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) นำคณะตัวแทนนักฟุตบอล จำนวน 9 คน ซึ่งเป็นเด็กในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ ดย.เข้าพบเพื่อรับโอวาทพร้อมรับมอบเสื้อสามารถ เพื่อเป็นกำลังใจก่อนเดินทางเข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลระหว่างเด็กกำพร้าจากสถานสงเคราะห์ทั่วโลก ครั้งที่ 5 (The 5th Football World Cup of Children from Care Homes) ระหว่างวันที่ 15-16 ก.ค.2560 ณ สนามกีฬา Legia กรุงวอร์ซอ สาธารณรัฐโปแลนด์
ทั้งนี้ องค์กร Hope for The Mundial มีหนังสือเรียนเชิญให้ ดย.คัดเลือกเด็กในสถานสงเคราะห์ อายุไม่เกิน 17 ปีจำนวน 8-10 คน พร้อมผู้ฝึกสอนและครูผู้ปกครอง 2 คน เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันครั้งนี้ โดยได้ทำการคัดเลือกตัวแทนนักฟุตบอล จำนวน 9 คน จากโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนในสถานรองรับเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กในสถานรองรับ:เพชรน้ำหนึ่ง รูปแบบ One Talent One Model (ด้านกีฬาฟุตบอล) “DCY Football Academy” เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเด็กและเยาวชนในสถานรองรับที่มีทักษะและความสามารถด้านกีฬาฟุตบอลให้สามารถก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพอย่างเต็มตัว
สำหรับกระทรวง พม.โดย ดย.ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กในสถานรองรับ : เพชรน้ำหนึ่ง เพื่อเป็นแนวทางสำหรับให้สถานรองรับใช้ในการพัฒนาเด็กในความอุปการะอายุ 0–18 ปีจำนวนกว่า 6,000 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กที่ประสบปัญหาทางสังคม ขาดผู้อุปการะเลี้ยงดู ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการพัฒนาที่เหมาะสมตามช่วงวัย โดยมีแนวทางขับเคลื่อนงานตามยุทธศาสตร์ฯ 4 ด้าน คือ
1) การพัฒนาปรับปรุงอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อมให้น่าอยู่มีสภาพพร้อมใช้งาน
2) การพัฒนาบุคลากร ทั้งในระดับผู้บริหาร (หัวหน้าหน่วย) ให้มีประสิทธิภาพในการบริหารอย่างมืออาชีพ และผู้ปฏิบัติงานให้มีความรู้ ความสามารถ มีทักษะในการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม
3) การพัฒนาตัวเด็กได้มีการจัดทำคู่มือการดำเนินงานกิจกรรมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัยในสถานรองรับ ดำเนินการวัดแววอัจฉริยะเพื่อพัฒนาความสามารถของเด็กตามความถนัดและความสนใจของเด็ก
และ 4) การใช้กลไกการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ โดยสอดคล้องกับความสามารถของหน่วยงานและตอบสนองต่อความต้องการของเด็กทั้ง 6 ด้าน ได้แก่ ดนตรี ภาษา ศิลปะ วิชาการ อิเล็กทรอนิกส์ และกีฬา .-สำนักข่าวไทย