ปรับปรุงแนวทางรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ปี 61

กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-สปสช.จับมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง Service Plan สธ.ราชวิทยาลัย  ปรับปรุงแนวทางรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ปี 61 เพิ่มเป็น 11 กลุ่มโรค 21 สูตรยาเคมีบำบัด  หรือ 21 โปรโตคอล ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมยาจำเป็นหลายรายการ 


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวพัฒนาแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2561 โดย ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ ประธานคณะทำงานพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. 


ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท กล่าวว่า การพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้ครอบคลุมและทั่วถึง และผู้ให้การรักษาได้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติและติดตามคุณภาพการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ การให้สิทธิประโยชน์มะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น  ปัจจุบันมียาจำเป็นหลายกลุ่มที่ค่อนข้างแพง มีการให้ยาเคมีบำบัดหลายชนิดที่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ที่ผ่านมามีการจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอล (Protocol) เพื่อประกอบการจ่ายชดเชยค่าบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2551 ที่มาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รักษาโรคมะเร็ง ราชวิทยาลัย Service Plan ของกระทรวงสาธารณสุข สมาคมทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน 


ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท กล่าวต่อว่า การต้องกำหนดโปรโตคอล (Protocol)  หรือสูตรยาเคมีบำบัดที่เป็นที่ยอมรับกันในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ  นั้น เพื่อให้มีมาตรฐานการรักษา ซึ่งยารักษามะเร็งนั้นจำเป็นต้องมีโปรโตคอลเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยซึ่งต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา  ยุโรป  ก็จะมีสมาคมวิชาชีพที่เป็นกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รักษาโรคมะเร็งจัดทำแนวทางการรักษาหรือโปรโตคอลการรักษามะเร็งเช่นกัน  โดยมีผู้เชี่ยวชาญของแต่ละสมาคมมาให้ความรู้ เอาข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์เข้ามาจับ  และมาช่วยกันทำ เพื่อให้เป็นประโยชน์ ในการรักษามะเร็งในรูปแบบต่างๆ เช่น แนวทางการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง 

สำหรับการจัดทำสูตรโปรโตคอลรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทองนั้น จะมีการทบทวนโปรโตคอลทุก  3  ปี โดยยึดหลักการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ รวมถึงรายการยาที่จำเป็นและเพิ่งทบ ทวนกันไป กำลังจะประกาศใช้ใน 1 ต.ค.2560 นี้ จากปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในสิทธิบัตรทองมีแนวทางการรักษา 8 กลุ่มโรค 11 โปรโตคอล และในปี 2561 นี้จะเพิ่มเป็น 11 กลุ่มโรค 21 โปรโตคอล ดังนี้

1.มะเร็งเต้านม 2.มะเร็งปอด 3.มะเร็งลำไส้ใหญ่ 4.มะเร็งหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร 5.มะเร็งตับทางเดินน้ำดี 6.มะเร็งหลังโพรงจมูก 7.มะเร็งนรีเวช ปากมดลูก รังไข่ มดลูก 8.มะเร็งกระเพาปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก 9.มะเร็งกระดูก 10.มะเร็งโรคเลือดผู้ใหญ่ 11.มะเร็งในเด็ก 

“วิวัฒนาการในการรักษาโรคมะเร็งที่สำคัญมีความก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ เดิมเป็นยาเคมีบำบัดพื้นฐาน ต่อมามียาเคมีบำบัดตัวใหม่ๆ ที่มีประสิทธิ ภาพสูงขึ้นและยังมียามุ่งเป้าที่เรียกว่า  Targeted therapy ที่มีประสิทธิ ภาพในการรักษาโรคมะเร็งที่มีเป้า  เช่น ยาต้าน HER-2 ในมะเร็งเต้านม ที่มีเป้า HER-2 เป็นบวก ยากลุ่มนี้ราคาแพงมาก ประมาณปีละ 5 แสนบาท แต่ สปสช.ได้พิจารณาถึงประโยชน์ที่จะเกิดแก่ผู้ป่วย จึงจัด Protocal ให้สำหรับการรักษาเสริมหรือที่เรียกว่า Adjuvant Therapy ด้วยยาต้าน HER-2 คือ Trastuzumab ให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกที่มีต่อมน้ำเหลืองเป็นบวกและมี HER-2 เป็นบวก นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้ยา มุ่งเป้า Rituximab ในโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Diffuselarge B cell ที่มีเป้า CD20 เป็นบวกด้วย ซึ่งราคายาประมาณ    4-5 แสนบาทต่อชุด” ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท กล่าว

ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ ยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษาก็มีราคาสูงมาก ขณะที่องค์ความรู้ด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง  มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สปสช.ขอบคุณทุกส่วนที่ร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงแนวทาง การรักษาโรคมะเร็งขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคณะทำงานซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษามะเร็ง Service Planกระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยและสมาคมทางการแพทย์ต่างๆ ที่ระดมสมองร่วมกันจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพมาตรฐานได้ครอบคลุมและทั่วถึง 

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า สถานการณ์ผู้ป่วยมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนการใช้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ในการชดเชยค่าบริการ ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 6,882 ล้านบาท (ผู้ป่วยนอกเฉลี่ยปีละ 1,356 ล้านบาท ผู้ป่วยในเฉลี่ยปีละ 5,526 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 6 ของงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ส่องความเสียหายน้ำท่วมหล่มสัก ชาวบ้านหวั่นท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 21 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จะลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง บ้านเรือนร้านค้าหลายร้อยหลังเจอน้ำท่วมซ้ำเป็นรอบที่ 2 ในช่วง 3 สัปดาห์ ทำให้ชาวบ้านกังวลหล่มสักจะกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก.-สำนักข่าวไทย

ไรเดอร์ร้องถูกชายอ้างเป็นตำรวจ ขี่รถประกบ-ข่มขู่

กทม. 21 ก.ย. – ไรเดอร์หนุ่ม สุดงง ถูกชายอ้างเป็นตำรวจสายสืบขี่รถตามประกบ ข่มขู่ดำเนินคดีเป็นไรเดอร์เถื่อน ขณะ สน.หนองแขม ยันไม่ใช่ตำรวจในสังกัด “ต๊ะ” ไรเดอร์วัย 27 ปี โพสต์คลิปบนเฟซบุ๊ก และนำมาร้องสื่อ โดยบอกว่า ชายคนนี้อ้างตัวเป็นตำรวจ ขี่รถมาประกบ และจอดขวางขณะกำลังขี่รถมาถึงปากซอยเพชรเกษม 81/5 เพื่อไปรับงานส่งลูกค้า ส่วนตอนคนที่อ้างเป็นตำรวจ เดินลงจากรถจักรยานยนต์ ก็อ้างว่าที่เรียกตรวจ เพราะเห็นว่าเป็นไรเดอร์ แต่ไม่มีกล่องใส่อาหารอยู่ท้ายรถ ซึ่งชายคนนี้ตามตัวมีครบทั้งวิทยุสื่อสาร ไฟฉาย และเสื้อที่ปักว่า “สืบ” มีอย่างเดียวที่ไม่เหมือนคือนิสัยที่ไม่เหมือนตำรวจ ทำให้ “ต๊ะ” ตัดสินใจถ่ายคลิปไว้ป้องกันตัวเอง เพราะเหตุเกิดขึ้นช่วงเที่ยงคืน หลังเกิดการโต้เถียงกัน สุดท้ายชายคนที่แอบอ้างเป็นตำรวจก็ไล่ “ต๊ะ” บอกจะไปไหนก็ไป เดี๋ยวโดนร้องเรียนเอง “ต๊ะ” จึงขี่รถกลับบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ เพราะที่จะไปรับลูกค้าก็ไปไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อขี่รถออกมา ชายที่อ้างตัวเป็นตำรวจยังขี่รถตามมา “ด่า” จนถึงปากซอยทางเข้าบ้าน แล้วก็ขี่รถฉีกออกไปมุ่งหน้าไปทางอ้อมใหญ่ ทำให้ “ต๊ะ” ค่อนข้างมั่นใจว่า ชายคนนี้ไม่ใช่ตำรวจ […]

“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์

ศรีสะเกษ 21 ก.ย.-“อนุทิน” ขึ้นรถอีแต๊ก ยกทัพภูมิใจไทย หาเสียงรอบตลาดภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศ มั่นใจชนะแน่ ไม่ต้องรบกวนให้ท่านช่วย ด้าน “จ๋า ธนนนท์” ภรรยา ขอสานฝันวัยเด็ก อยากเป็นนางงามขึ้นรถแห่ช่วยหาเสียง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ภายหลังจากเสร็จสิ้นการปราศรัยช่วยหาเสียงให้ นางสาวจินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล หรือครูอีฟ ผู้สมัคร สส.ภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ได้ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำอำเภอภูสิงห์ อาทิ เทพารักษ์ ศาลหลักเมืองประจำอำเภอ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ขอพรอะไรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นายอนุทิน เผยว่า ได้ขอพรให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข เข้มแข็ง มีแต่ชัยชนะ ประชาชนอยู่ดีกินดี จริงๆ ก็ขอแค่นี้ เมื่อถามว่าได้ขอพรให้ชนะเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายอนุทิน เผยด้วยความมั่นใจว่า ภูมิใจไทยชนะ ไม่รบกวนท่าน ไม่รบกวนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ขอให้ประเทศไทยเข้มแข็ง ขอให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขแค่นี้ ต่อมานายอนุทิน ได้เดินหาเสียงที่ตลาดภูสิงห์ ช่วยนางสาวจินณ์ตวรรณ […]

ทบ.ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC

กทม. 21 ก.ย.-กองทัพบก ชี้ข้อมูลหลักเขตแดนที่ 42-43 เป็นไปตามกรอบ JBC พร้อมเรียกร้องกัมพูชาหยุดบิดเบือนความจริง และให้ชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตไทยย้ายออกนอกพื้นที่ กรณีสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการชายแดนกัมพูชา แถลงการณ์เมื่อ 21 ก.ย. 68 ว่า “พบการเผยแพร่ข้อมูลผ่านบัญชี Facebook Page ชื่อ “Royal Thai Army: Update” เมื่อ 19 กันยายน 2568 โดยใช้แผนผังที่แสดงลักษณะภูมิศาสตร์และตำแหน่งหลักเขตแดน ซึ่งเป็นบันทึกการประชุมลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2017 (พ.ศ. 2560) และภาคผนวกของบันทึกการประชุมลงวันที่ 28 ธันวาคม 2016 (พ.ศ. 2559) ของคณะกรรมการรังวัดร่วมกัมพูชา–ไทย ซึ่งเป็นผลจากการสำรวจหาตำแหน่งที่แท้จริงของหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข 43 ในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน โดยมีการบิดเบือนให้เข้าใจผิดไปว่า คณะผู้บริหารของสำนักงานเลขาธิการว่าด้วยกิจการพรมแดน (ฯพณฯ ลาย เซียงลี) ได้ลงนามยอมรับเส้นเขตแดนอย่างเป็นทางการในพื้นที่หมู่บ้านไปรจัน ซึ่งอยู่ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 42 และหมายเลข […]