ปรับปรุงแนวทางรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ปี 61

กรุงเทพฯ 6 ก.ค.-สปสช.จับมือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็ง Service Plan สธ.ราชวิทยาลัย  ปรับปรุงแนวทางรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทอง ปี 61 เพิ่มเป็น 11 กลุ่มโรค 21 สูตรยาเคมีบำบัด  หรือ 21 โปรโตคอล ให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมยาจำเป็นหลายรายการ 


สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวพัฒนาแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปี 2561 โดย ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ ประธานคณะทำงานพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. 


ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท กล่าวว่า การพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้ครอบคลุมและทั่วถึง และผู้ให้การรักษาได้ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติและติดตามคุณภาพการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ การให้สิทธิประโยชน์มะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทองที่ผ่านมานั้น ต้องบอกว่าทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น  ปัจจุบันมียาจำเป็นหลายกลุ่มที่ค่อนข้างแพง มีการให้ยาเคมีบำบัดหลายชนิดที่อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ที่ผ่านมามีการจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอล (Protocol) เพื่อประกอบการจ่ายชดเชยค่าบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่ปี 2551 ที่มาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รักษาโรคมะเร็ง ราชวิทยาลัย Service Plan ของกระทรวงสาธารณสุข สมาคมทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้อง และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน 


ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท กล่าวต่อว่า การต้องกำหนดโปรโตคอล (Protocol)  หรือสูตรยาเคมีบำบัดที่เป็นที่ยอมรับกันในการรักษาโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ  นั้น เพื่อให้มีมาตรฐานการรักษา ซึ่งยารักษามะเร็งนั้นจำเป็นต้องมีโปรโตคอลเพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยซึ่งต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา  ยุโรป  ก็จะมีสมาคมวิชาชีพที่เป็นกลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่รักษาโรคมะเร็งจัดทำแนวทางการรักษาหรือโปรโตคอลการรักษามะเร็งเช่นกัน  โดยมีผู้เชี่ยวชาญของแต่ละสมาคมมาให้ความรู้ เอาข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์เข้ามาจับ  และมาช่วยกันทำ เพื่อให้เป็นประโยชน์ ในการรักษามะเร็งในรูปแบบต่างๆ เช่น แนวทางการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง 

สำหรับการจัดทำสูตรโปรโตคอลรักษาผู้ป่วยมะเร็งสิทธิบัตรทองนั้น จะมีการทบทวนโปรโตคอลทุก  3  ปี โดยยึดหลักการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ รวมถึงรายการยาที่จำเป็นและเพิ่งทบ ทวนกันไป กำลังจะประกาศใช้ใน 1 ต.ค.2560 นี้ จากปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยมะเร็งในสิทธิบัตรทองมีแนวทางการรักษา 8 กลุ่มโรค 11 โปรโตคอล และในปี 2561 นี้จะเพิ่มเป็น 11 กลุ่มโรค 21 โปรโตคอล ดังนี้

1.มะเร็งเต้านม 2.มะเร็งปอด 3.มะเร็งลำไส้ใหญ่ 4.มะเร็งหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร 5.มะเร็งตับทางเดินน้ำดี 6.มะเร็งหลังโพรงจมูก 7.มะเร็งนรีเวช ปากมดลูก รังไข่ มดลูก 8.มะเร็งกระเพาปัสสาวะ มะเร็งต่อมลูกหมาก 9.มะเร็งกระดูก 10.มะเร็งโรคเลือดผู้ใหญ่ 11.มะเร็งในเด็ก 

“วิวัฒนาการในการรักษาโรคมะเร็งที่สำคัญมีความก้าวหน้าขึ้นตามลำดับ เดิมเป็นยาเคมีบำบัดพื้นฐาน ต่อมามียาเคมีบำบัดตัวใหม่ๆ ที่มีประสิทธิ ภาพสูงขึ้นและยังมียามุ่งเป้าที่เรียกว่า  Targeted therapy ที่มีประสิทธิ ภาพในการรักษาโรคมะเร็งที่มีเป้า  เช่น ยาต้าน HER-2 ในมะเร็งเต้านม ที่มีเป้า HER-2 เป็นบวก ยากลุ่มนี้ราคาแพงมาก ประมาณปีละ 5 แสนบาท แต่ สปสช.ได้พิจารณาถึงประโยชน์ที่จะเกิดแก่ผู้ป่วย จึงจัด Protocal ให้สำหรับการรักษาเสริมหรือที่เรียกว่า Adjuvant Therapy ด้วยยาต้าน HER-2 คือ Trastuzumab ให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะแรกที่มีต่อมน้ำเหลืองเป็นบวกและมี HER-2 เป็นบวก นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้ยา มุ่งเป้า Rituximab ในโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิด Diffuselarge B cell ที่มีเป้า CD20 เป็นบวกด้วย ซึ่งราคายาประมาณ    4-5 แสนบาทต่อชุด” ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท กล่าว

ด้าน นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ ยาและเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษาก็มีราคาสูงมาก ขณะที่องค์ความรู้ด้านการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง  มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สปสช.ขอบคุณทุกส่วนที่ร่วมกันพัฒนาและปรับปรุงแนวทาง การรักษาโรคมะเร็งขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคณะทำงานซึ่งเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษามะเร็ง Service Planกระทรวงสาธารณสุข ราชวิทยาลัยและสมาคมทางการแพทย์ต่างๆ ที่ระดมสมองร่วมกันจัดทำแนวทางการรักษาโรคมะเร็งหรือโปรโตคอลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพมาตรฐานได้ครอบคลุมและทั่วถึง 

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า สถานการณ์ผู้ป่วยมะเร็งในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พบว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนการใช้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ในการชดเชยค่าบริการ ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ 6,882 ล้านบาท (ผู้ป่วยนอกเฉลี่ยปีละ 1,356 ล้านบาท ผู้ป่วยในเฉลี่ยปีละ 5,526 ล้านบาท) คิดเป็นร้อยละ 6 ของงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง