ทำเนียบฯ 6 ก.ค.- นายกรัฐมนตรี เผย เร่งพัฒนาอีอีซี เพื่อนำประเทศไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนภาคอื่นๆ ว่าจะดำเนินโครงการต่อไปในอนาคต
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ครั้งที่ 2/2560 ว่า อยากให้ทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงการดำเนินโครงการอีอีซี ว่าจะทำให้ประเทศหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และจำเป็นต้องมีโครงการขนาดใหญ่ และต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ ดังนั้นต้องเริ่มทำวันนี้เพื่อไม่ให้ล่าช้าเกินไป แต่ทั้งนี้ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ จึงได้เน้นย้ำในที่ประชุมถึงการดูแลพื้นที่ทำการเกษตร และการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการเดินหน้าพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งนี้ จะต้องมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งรถไฟทางคู่ ที่จะเชื่อมโยงท่าอากาศยาน และท่าเรือ ทั้งหมดเพื่อใช้สำหรับการขนส่งคนและสินค้า นอกจากนี้ ยังมีการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟทางคู่ ระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือมายังภาคตะวันออก และเชื่อมต่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินหน้าประเทศต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ชาติ ขณะเดียวกันต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศอื่นด้วย ในลักษณะ Win-Win หรือต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ โดยไทยจะต้องไม่เสียเปรียบ และต้องเกิดประโยชน์ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนของการลงทุนจากต่างประเทศที่ต้องเข้ามาเสริมการดำเนินโครงการของไทย รัฐบาลจะทำให้เชื่อมโยงกับการลงทุนในประเทศ ในการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก พร้อมฝากทำความเข้าใจกับประชาชนในภาคอื่น ๆ ว่าการเลือกดำเนินการในภาคตะวันออกก่อน เพราะมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการรองรับอุตสาหกรรมใหม่ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ในภาคอื่น ๆ ก็จะเป็นโครงการในระยะต่อไปที่รัฐบาลต้องผลักดัน ให้ตรงกับศักยภาพของแต่ละภาค
“การลงทุนในโครงการจะมีทั้ง การระดมทุนจากเอกชนของไทย และที่เอกชนไทยร่วมมือกับเอกชนต่างประเทศ ซึ่งโครงการจะมีทั้ง 2 ประเภท คือโครงการที่ต้องประมูล และโครงการที่ต้องมีการเจรจากับผู้ที่สนใจลงทุน หากเป็นโครงการที่ไทยมีความต้องการ เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งทั้งหมดต้องดูแลให้โปร่งใสเป็นไปตามขั้นตอน” นายกรัฐมนตรี กล่าว .-สำนักข่าวไทย